“บิว” ภูริพล บุญสอน ซุปตาร์กรีฑาไทย นำทัพ เขต 2 ชลบุรี/สมุทรปราการ เข้าเส้นชัยชนิดทิ้งหนีได้ถึง 10 วินาที ด้วยเวลา 41.58 วิ. คว้าเหรียญทองไปครอง ขณะที่ “เวฟ” กฤษดา วงศ์สระ นักยกน้ำหนักหนุ่มน้อยเยาวชนทีมชาติไทย ของเขต 10 กรุงเทพมหานครที่ระเบิดฟอร์มเก่งยกทำลายสถิติได้หมดทั้ง 3 ท่า เป็นคนแรกของมหกรรมกีฬานักเรียน นักศึกษาแห่งชาติครั้งนี้
ยกเหล็ก”กฤษดา”สร้างชื่อกีฬานักเรียนฯ
การแข่งขันกีฬานักเรียน นักศึกษาแห่งชาติ ครั้งที่ 42 ประจำปี 2566 “เทียนนกแก้วเกมส์” ระหว่างวันที่ 6-14 ม.ค.66 ที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยเมื่อวันที่ 9 ธ.ค.ที่ผ่านมายังมีชนิดกีฬาแห่แหนกันลงชิงเหรียญทองคับคั่ง ท่ามกลางอากาศอันเย็นสบายสไตล์หน้าหนาวของภาคเหนือที่จังหวัดเชียงใหม่
“กฤษดา” ยกทุบสถิติขาดลอย3ท่า
ยกน้ำหนัก ที่สนามกีฬาเทศบาลนครเชียงใหม่ ไฮไลต์อยู่ในรุ่น 67 กก. ชาย ที่มีเหล่ายกเหล็กหนุ่มน้อยร่วมชิงชัยกันจำนวนถึง 12 คน ผลปรากฎว่าเหรียญทองทั้ง 3 เหรียญจากทั้งท่าสแนช, คลีนแอนด์เจิร์ก และน้ำหนักรวมตกเป็นของคนๆ เดียวคือ “เวฟ” กฤษดา วงศ์สระ นักยกน้ำหนักหนุ่มน้อยเยาวชนทีมชาติไทย เจ้าของ 3 ทองกีฬาเยาวชนแห่งชาติที่จ.พัทลุง ปี 2565 วัย 18 ของเขต 10 กรุงเทพมหานคร ที่ระเบิดฟอร์มเก่งยกทำลายสถิติได้หมดทั้ง 3 ท่า เป็นคนแรกของมหกรรมกีฬานักเรียน นักศึกษาแห่งชาติครั้งนี้
โดยเจ้าตัวยกสแนชได้ 120 กก., คลีนแอนด์เจิร์ค 160 กก. และ น้ำหนักรวม 280 กก. ทุบสถิติของ ธนโชติ พรมชาติ ที่ทำสแนชไว้ 115 กก., คลีนฯ 142 กก. และ น้ำหนักรวม 257 กก. เมื่อปี 2563 ที่อุดรธานี ส่วนท่าสแนช เหรียญเงิน ได้แก่ จิระพงศ์ ยอดสาร จากเขต 8 สุราษฎร์ธานี 111 กก., เหรียญทองแดง ได้แก่ ธนวัฒน์ เทศกุล จากเขต 3 ศรีสะเกษ 98 กก., ท่าคลีนแอนด์เจิร์ก เหรียญเงิน ได้แก่ ธนวัฒน์ เทศกุล จากเขต 3 ศรีสะเกษ 134 กก., เหรียญทองแดง ได้แก่ กฤษณพงศ์ ปัญญาชิต จากเขต 2 ชลบุรี 133 กก. และน้ำหนักรวม เหรียญเงิน ได้แก่ จิระพงศ์ ยอดสาร จากเขต 8 สุราษฎร์ธานี 236 กก. และเหรียญทองแดง ธนวัฒน์ เทศกุล จากเขต 3 ศรีสะเกษ 232 กก.
ทำคลีนแอนด์เจิร์กได้เยอะสุดในชีวิต
“เวฟ” กฤษดา วงศ์สระ ยกเหล็กหนุ่มจากเขต 10 กรุงเทพฯ เผยถึงความรู้สึกหลังสร้างผลงานสุดยอดว่า ตั้งเป้าว่าจะต้องทำให้ได้ตั้งแต่แรกเพราะมั่นใจที่ได้ฝึกซ้อมมา แต่ก็ถือว่าเป็นน้ำหนักที่เกินคาดและสูงที่สุดในชีวิตที่ทำได้ เพราะปกติมาตรฐานในท่าคลีนแอนด์เจิร์กตนจะอยู่ที่ 155 กก. ส่วนหลังจากนี้ตนที่ได้ติดทีมชาติแล้วก็จะเตรียมกลับไปเก็บตัวฝึกซ้อมเพื่อเข้าแข่งขันกีฬาซีเกมส์ที่ประเทศกัมพูชากลางปีนี้ ซึ่งหวังที่จะทำผลงานประเภทสแนชให้ได้เยอะกว่านี้
กทม.อวยพร”กฤษดา”ถึงชิงแชมป์โลก
อาจารย์อนงค์นุช รุ่งหิรัญศักดิ์ ผู้ฝึกสอนยกน้ำหนักของทีมเขต 10 กรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงผลงานของนักกีฬาในสังกัดที่ออกมาดีเยี่ยมว่า ทีมยกน้ำหนักกรุงเทพฯ ส่งนักกีฬาเข้าร่วมถึง 16 คน และตั้งเป้าหมายไว้ที่ 10 เหรียญทอง ซึ่งตอนนี้ก็ได้มา 12 เหรียญทองถือว่าเกินเป้าแล้วทุกคนในทีมต่างก็ดีใจในความสำเร็จ เพราะต้องบอกว่าทีมยกเหล็กกรุงเทพฯ ตอนนี้อยู่ในช่วงการผลัดใบรุ่นเล็กๆ ขึ้นมาแทนรุ่นพี่ เพราะรุ่นพี่หลายๆ คนก็ใกล้จะจบกันหมดแล้ว ส่วนในตัวของน้องเวฟนั้นก็ถือว่าเขาทำได้เกินคาดและผลงานดีโดดเด่นกว่าใครในทีมกทม. เพราะคาดหวังว่าเขาจะได้คลีนแอนด์เจิร์กมากสุดแค่ที่ 155 กก. ซึ่งตอนนี้เขาก็ได้เข้าไปอยู่ในแคมป์ทีมชาติแล้ว หลังจากนี้เราก็อยากให้เขาไปแข่งขันแมตช์ต่างประเทศเยอะๆ อย่างเช่นในแมตช์ชิงแชมป์โลก ทีมกรุงเทพฯ ทุกคนอยากให้เขาประสบความสำเร็จ
“บิว” นำทัพเขต2กระชากทอง4×100
กรีฑา ที่สนามกีฬาเทศบาลนครเชียงใหม่ ไฮไลต์หนีไม่พ้นวิ่งผลัด 4×100 ม. ชาย ที่มี “บิว” ภูริพล บุญสอน ซุปตาร์กรีฑาไทย เจ้าของสถิติ 100 ม.ที่ดีที่สุดตลอดกาลของโลกในรุ่นยุวชน และ 3 เหรียญทองซีเกมส์ 2022 เพิ่งได้ 1 เหรียญทองวิ่ง 200 ม. ชาย จากศึกเทียนนกแก้วเกมส์นี้มาแล้วเมื่อวันก่อน ลงแข่งขันร่วมกับอีก 3 หนุ่มเพื่อนร่วมทีมเขต 2 ชลบุรี/สมุทรปราการ ประกอบด้วย อานนท์วัฒน์ วิวัฒน์ภูรี, สิรภพ บุญหยวก และ ภัทรกร เฮงเจริญ ซึ่งผลปรากฎว่าทั้ง 4 หนุ่มสามารถทำได้ตามที่ทุกฝ่ายคาด ซึ่งถึงแม้ใน 3 ไม้แรก เขต 2 จะตามหลังเขต 3 อุบลราชธานี แต่พอไม้มาถึง “เทพบิว” ลมกรดดาวดังทีมชาติไทยก็โชว์ศักยภาพสับสุดแรงเท้า แซงหน้าเขต 3 เข้าเส้นชัยชนิดทิ้งหนีได้ถึง 10 วินาที ด้วยเวลา 41.58 วิ. คว้าเหรียญทองไปครอง ส่วนเหรียญเงินทีมเขต 3 อุบลราชธานี ที่ประกอบด้วย ภูริภัทร ขันชะลี, เกียรติศักดิ์ ศาลางาม, ธนดล วุฒสังข์ และ ออมสิน ผิวเงิน เข้าเส้นชัยด้วยเวลา 42.08 ส่วนเหรียญทองแดงได้แก่เขต 6 นครสวรรค์ ที่ประกอบด้วย ธนกฤต มีจันโท, ชูวิทย์ สติภา, วัชพล ถันทอง และ ณัฐวุฒิ รอดสั้น ทำเวลา 42.21 วิ.
เพื่อนร่วมทีมหวาน”อยากเก่งเหมือนบิว”
“บิว” ภูริพล บุญสอน พร้อม 3 หนุ่มนักวิ่งทีมเขต 2 ชลบุรี/สมุทรปราการ ประกอบด้วย อานนท์วัฒน์ วิวัฒน์ภูรี, สิรภพ บุญหยวก และ ภัทรกร เฮงเจริญ เผยความรู้สึกหลักกระชากเหรียญทองมาครองว่า ในส่วนของบิวนั้นก่อนแข่งคาดหวังที่จะทำลายสถิติให้ได้ในรายการนี้เลยแต่การได้ร่วมทีมกับเพื่อนๆ ที่ทำเต็มที่กันทุกคนแล้ว เวลาที่ออกมาก็ถือว่าน่าพอใจแล้ว ส่วนมุมมองของตนที่มีต่อเพื่อนๆ นักวิ่งในรุ่นเดียวกันนั้นถือว่าทุกคนมีความพัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆ วิ่งกันดีขึ้นเรื่อยๆ ส่วนฝั่งๆ เพื่อนๆ ทั้ง 3 คนกล่าวว่ามี 2 คนที่มาวิ่งกับบิวครั้งแรกก็ถือว่ายากนิดหน่อย ต้องมีการปรับจูนกันเหมือนกัน แต่สุดท้ายทุกอย่างก็ออกมาดี ซึ่งได้มาวิ่งกับเขาครั้งนี้ก็มีความรู้สึกอยากเก่งเหมือนเขา ก็ถือเป็นแรงบันดาลใจภายในทีมเหมือนกัน ขณะที่อาการส่วนตัวของบิวหลังจบ 2 รายการแล้วต้องมีแข่ง 100 ม. อีกหนึ่งรายการที่เหลือนั้น เจ้าตัวกล่าวว่ามีตึงๆ และล้านิดหน่อย แต่ก็ไม่น่ามีผลอะไรมาก ยังหวังทำลายสถิติให้ได้อีกหนึ่งรายการแน่นอน
ที่มาของภาพ : Siamsport