ตำรวจสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ จับกุม บังแจ็ค ผู้ค้ากัญชาออนไลน์ หลังได้รับแจ้งจากพลเมืองดี พร้อมยึดของกลางและอาวุธปืน
เมื่อวันเสาร์ที่ 3 กรกฎาคม 2564 เจ้าหน้าที่กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ (191) ถนนวิภาวดีรังสิต พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ งานสายตรวจ 1 กองกำกับการสายตรวจ ทำการสืบสวนติดตามจับกุม ผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดด้วยวิธี ชื้อขายออนไลน์ ผ่านเฟซบุ๊ก สามารถจับกุม นายภานุพันธุ์ หรือ เน็ค (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 21 ปี พร้อมด้วยของกลาง ประกอบด้วย กัญชาอัดแท่ง ห่อหุ้มด้วยกระดาษฟอยล์สีทอง น้ำหนักรวมประมาณ 39 กิโลกรัม, อาวุธปืนสั้นไทยประดิษฐ์ ขนาด .380 จำนวน 1 กระบอก และเครื่องกระสุนปืน ขนาด .380 จำนวน 52 นัด
ตำรวจสามารถจับกุมนายภานุพันธุ์ ได้ภายในซอยพระราม 2 ซอย 60/1 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ ขยายผล ห้องเช่าไม่มีเลขที่ภายในซอยพระยามนธาตุราชศรีพิจิตร์ แยก 35-1 แขวงบางบอน เขตบางบอน กรุงเทพฯ โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า มียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย, มียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
การจับกุมเกิดขึ้นหลังจาก ตำรวจงานสายตรวจ 1 กก.สายตรวจ บก.สปพ. ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า พบกลุ่มวัยรุ่นมีพฤติกรรมจำหน่ายกัญชาผ่านช่องทางแอปพลิเคชัน เฟซบุ๊ก และจัดส่งกัญชาผ่านช่องทางขนส่งเอกชน ตำรวจจึงทำการสืบสวนจนทราบว่า กลุ่มคนดังกล่าวจะใช้รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ ไอ125 สีเขียว ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน หมุนเวียนกันไปส่งกัญชาที่ขนส่งเอกชน และสืบสวนจนทราบว่า กลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวพักอาศัยอยู่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งในแขวงบางบอน เขตบางบอน กรุงเทพฯ
จากนั้นวันที่ 3 ก.ค.64 ตำรวจงานสายตรวจจึงได้วางแผนการจับกุม และสังเกตการณ์ภายในซอยพระราม 2 ซอย 60/1 โดยในเวลาประมาณ 16.30 น. พบชายมีท่าทางมีพิรุธขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้าเวฟไอ สีเขียว ตรงกับที่ได้ทำการสืบสวน เพื่อมาส่งกัญชากับขนส่งเอกชน ตำรวจจึงแสดงตัวขอทำการตรวจค้น พบกัญชาอัดแท่ง น้ำหนักรวมประมาณ 2 กิโลกรัม ในกระเป๋า จากการสอบถามและยังรับอีกว่า ยังมีกัญชาอีกจำนวนหนึ่งที่ซุกซ่อนอยู่บนห้องเช่าไม่มีเลขที่ ภายในซอยพระยามนธาตุราชศรีพิจิตร์ แยก 35-1 แขวงบางบอน เขตบางบอน กรุงเทพฯ และสมัครใจนำเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจค้น พบกัญชาอัดแท่ง จำนวนประมาณ 37 กิโลกรัม พร้อมกล่องพัสดุ เลขกำกับพัสดุ และอาวุธปืนสั้น ไทยประดิษฐ์ พร้อมเครื่องกระสุนปืน เครื่องซีลปากถุง ถุงพลาสติกใส จำนวน 50 ใบ วางอยู่ภายในห้องพัก
จากนั้นตำรวจได้สอบถามนายภานุพันธุ์ เพื่อขยายผลการจับกุม นายภานุพันธุ์ให้การว่าตนซื้อกัญชามาจากเพื่อนในเฟซบุ๊ก ในราคากิโลกรัมละ 4,500 บาท และตนจะนำมาแบ่งจำหน่ายผ่านเฟซบุ๊ก โดยใช้นามแฝงว่า “บังแจ็ค” และส่งพัสดุผ่านขนส่งเอกชน ในราคากิโลกรัมละ 5,500 บาท เพื่อเอากำไรอีกต่อหนึ่ง จากการตรวจสอบข้อมูลการส่งพัสดุเอกชน ประมาณ 2 เดือน พบมีการส่งกัญชา มากกว่า 100 รายการ มีรายได้เดือนละ 300,000 บาท จึงได้จับกุมผู้ต้องหาพร้อมด้วยของกลาง นำส่ง พนักงานสอบสวน สน.ท่าข้าม เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
เผยแพร่: 3 มิ.ย. 256…
This website uses cookies.