การแข่งขันกีฬาอาวุโส “ไทยแลนด์ โอเพ่น มาสเตอร์เกมส์” ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2565 เป็นการแข่งขันวันที่ 4
เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด
เปตอง ชิง 2 ทอง ที่สนามเปตอง ม.ทักษิณ รอบชิงชนะเลิศ ประเภทชู้ตติ้งหญิง เปรมวดี นวลักษณ์ วัย 61 ปีจากภูเก็ต มาจากทีมป่าตอง เอาชนะ ฉวีวรรณ แสงสุวรรณ วัย 56 ปี จากสุราษฎร์ธานี 31-22
ประเภทชู้ตติ้งชาย วิสิทธิ์ อ่อนแก้ว วัย 59 ปีจาก ตรัง เป็นฝ่ายชนะ บุญธรรม สุวรรณรัตน์ วัย 60 ปี จาก พัทลุง 48-30
เกทบอล ชิง 3 ทอง ที่สนามติณสูลานนท์ เป็นวันสุดท้ายของการแข่งขันประเภทคู่ 3 รุ่นอายุ ได้แก่ 60 ปีขึ้นไป, 35-59 ปี และ รุ่นพรีมาสเตอร์ 34 ปีลงมา โดยไฮไลต์ในรุ่นอายุ 60 ปีขึ้นไปรอบชิงชนะเลิศเป็นการโคจรมาดวลกันเองของทีมอุดรธานี ทีมเอ ซึ่งประกอบด้วย จุมพล อามาตย์มนตรี กับ มัตติกา พังพี ปะทะ ทีมอุดรธานี ทีมซี ที่มี ณัฐรดา ศิริลิมประพันธ์ กับ อุไรรัตน์ แถบทองโดยเกมคู่นี้สู้กันสนุก ทั้งสองฝ่ายรู้ไส้รู้พุงกันเป็นอย่างดีเพราะซ้อมร่วมกันมาตลอด ทว่าในช่วงท้ายเป็นทาง ณัฐรดา กับ อุไรรัตน์ ที่แรงปลาย ตีสุดแม่นในช่วงท้ายคว้าชัยไปอย่างยอดเยี่ยม 16-11 คะแนน ผงาดคว้าแชมป์ได้สำเร็จ
รุ่น 35-59 ปี รอบชิงชนะเลิศ กฤษดา เกษาพรหม กับ งามลักษณ์ มิ่งชัย จากทีมบอย แอนด์ เกิร์ล ชนะ โสทร ยุติธรรม กับ สุพานิช ยุติธรรม จากทีมเทศบาลเมืองปากพูน จ.นครศรีธรรมราช ทีมเอ 15-8 คะแนน รุ่นพรีมาสเตอร์ 34 ปี ลงมา รอบชิงชนะเลิศ เกรียงศักดิ์ พราหมโณ กับ ศราวุฒิ โอจันทร์ จากทีมเทศบาลเมืองปากพูน จ.นครศรีธรรมราช ทีมเอ ชนะ จักรพัฒน์ อินทสาร กับ สุธีร์ ญาณสูตร จากทีมเทศบาลเมืองปากพูน จ.นครศรีธรรมราช ทีมบี 17-8 คะแนน
สรุป อุดรธานี 2 ทอง นครศรีธรรมราช 2 ทอง บ้อมดาว และบอย แอนด์เกิร์ล 2 ทอง
กรีฑา ชิง 80 ทอง ที่สนามติณสูลานนท์ และสนามโรงเรียนมหาวชิราวุธ
วิ่งข้ามรั้ว 100 เมตร ชาย รุ่นอายุระหว่าง 50-54 ปี ปรากฏว่า เหรียญทองเป็นของ อดิศักดิ์ ถาวร นักวิ่งเจ้าถิ่น สงขลา วัย 51 ปี ที่เข้าเส้นชัยมาเป็นอันดับ 1 ด้วยเวลา 17.53 วินาที ทำลายสถิติรายการนี้ ของ ศุภชัย พิมพ์กิ ที่เคยทำไว้ในการแข่งขันที่ กรุงเทพฯ เมื่อปี 2563 เวลา 20.01 วินาที และนับเป็นเหรียญที่ 2 ของเจ้าตัวในการแข่งขันครั้งนี้ ต่อจาก เหรียญทองแดง วิ่งผลัด 4×100 เมตร
วิ่งข้ามรั้ว 100 เมตร ชาย รุ่น 60-64 ปี บัญญัติ รุ่งเรือง 18.23 วิ.(ดีกว่าสถิติเดิมที่ ถาวรพันธุ์เรือง ทำไว้ 19.08 วิ. และสถิติแห่งชาติ ที่วีระพล คุ้มภัย 18.93 วิ.), วิ่งข้ามรั้ว 100 เมตร ชายรุ่น 65-69 ปี ไพบูลย์ มีทรัพย์ จากภูเก็ต 18.10 วิ.
วิ่งข้ามรั้ว 80 เมตร หญิง รุ่นอายุระหว่าง 60-64 ปี ปรากฏว่าแชมป์เป็นของ มิเชล ฮอสแซค จากออสเตรเลีย ของทีมกรีฑากรุงเทพฯ ที่วิ่งเข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 1 ด้วยเวลา 15.58 วินาที คว้าเหรียญทองไปครอง พร้อมกับทำลาย 2 สถิติของ วศินี คำนึง ที่ทำไว้ในการแข่งขันกีฬาอาวุโสแห่งชาติ ที่จังหวัดน่านเมื่อปี 2561 ที่เวลา 18.63 วินาที และในรายการไทยแลนด์ โอเพ่น มาสเตอร์ เกมส์ เมื่อปี 2563 ที่เวลา 19.35 วินาที
ขณะที่ วิ่งข้ามรั้ว 80 เมตร หญิง รุ่นอายุระหว่าง 55-59 ปี เหรียญทองเป็นของ สุพัตรา มณีประวัติ นักวิ่งเจ้าถิ่นสงขลา ที่เข้าเส้นชัยเป็นคนแรกด้วยเวลา 18.07 วินาที ทำลายสถิติกีฬาอาวุโสแห่งชาติ ของ ปราณี ใจสว่าง ที่ทำไว้ 19.11 วินาที ที่จังหวัดน่าน เมื่อปี 2561
วิ่งผลัด 4×400 เมตร หญิง รุ่น 35-39 ปี สุราษฎร์ธานี 5.23.79 น. รุ่น 40-44 ปี สุราษฎร์ธานี 05.09.8 น.(ดีกว่าสถิติเดิม) รุ่น 45-49 ปี นครศรีธรรมราช 5.17.78 น.รุ่น 50-54 ปี นครศรีธรรมราช 6.35.78 น. (ดีกว่าสถิติเดิม) รุ่น 55-59 ปี สงขลา 6.09.33 น.รุ่น 69-64 ปี สงขลา 7.23.80 น. (ดีกว่าสถิติเดิม) รุ่น 65-69 ปี สงขลา 7.55.97 นาที รุ่น 70-74 ปี สงขลา 12.07.79 น. รุ่น 75-79 ปี อุตรดิตถ์ 14.40.38 น.
วิ่งผลัด 4×400 เมตรชาย รุ่น 35-39 ปี นครศรีธรรมราช 3.47.71 น.(ดีกว่าสถิติเดิม) รุ่น 40-44 ปี อบจ.ตรัง 3.59.54 น.(ดีกว่าสถิติเดิม) รุ่น 45-49 ปี อบจ.ตรัง 4.04.64 น.(ดีกว่าสถิติเดิม) รุ่น 59-54 ปี สงขลา 4.05.41 น.รุ่น 55-59 ปี สุราษฎร์ธานี 4.22.39 นาที (ดีกว่าสถิติเดิม) รุ่น 60-64 ปี สงขลา 4.46.12 น.รุ่น 65-69 ปี สงขลา 4.49.97 น.(ดีกว่าสถิติเดิม) รุ่น 70-74 ปี นครศรีธรรมราช 5.38.48 น.(ดีกว่าสถิติเดิม) รุ่น 80-84 ปี อุตรดิตถ์ 8.42.69 น.
วันสุดท้าย คุณตาสว่าง จันทร์พราหมณ์ นักวิ่งวัย 102 ปี อายุมากที่สุดในรายการนี้ จากชลบุรี เก็บเพิ่มอีกเหรียญจากพุ่งแหลน รุ่น 100-104 ปี 10.78 ม.รวม 4 ทอง
สำหรับรางวัลนักกีฬายอดเยี่ยม ฝ่ายชาย ตกเป็นของ คุณตาสว่าง จันทร์พราหมณ์ ที่ได้ 4 ทอง พร้อมทุบสถิติเดิมทุ่มน้ำหนัก ขว้างจักร และอีก 2 เหรียญจากพุ่งแหลน และ วิ่ง 100 เมตร รุ่นอายุ 100-104 กก.
ส่วนฝ่ายหญิง พิกุล ยี่สุ่น จากสุราษฎร์ธานี ทำลายสถิติเดิม ขว้างจักร พุ่งแหลน ทุ่มน้ำหนัก รุ่นอายุ 50-54 ปี
จบวันสุดท้ายที่เป็นวันที่ 3 สงขลา ได้ 17 ทอง 18 เงิน 12 ทองแดง ที่ 2 นครศรีธรรมราช 10 ทอง 6 เงิน 6 ทองแดง ที่ 3 กทม. 4 ทอง 4 เงิน 1 ทองแดง รวม 3 วัน สงขลาเป็นที่ 1 53 ทอง 54 เงิน 43 ทองแดง ตามมาด้วย นครศรีธรรมราช 34 ทอง 24 เงิน 43 ทองแดง อันดับ 3 กทม.20 ทอง 13 เงิน 5 ทองแดง
เทนนิส ชิง 4 ทอง ที่สนามเทนนิส เอซี สปอร์ตเซ็นเตอร์ รอบชิงชนะเลิศ หญิงคู่ อายุรวมไม่ต่ำกว่า 80 ปี ดร.กรฎา มาตยากร-จิรา แท่นทอง ชนะ อนงค์สยาพร ปัญญาธนาศักดิ์ -นุการณ์ จันสุกสี 8-6 อายุรวมไม่ต่ำกว่า 120 ปี อัจฉรา โชติวัฒนะพันธุ์ – สิริพรรณ ลิขิตกำจร ชนะ จุฬารัตน์ ไพศาลศิลป์ -พิกุล กตกุลธร 8-6 ชายคู่ อายุรวมไม่ต่ำกว่า 80 ปี ชาริบ หลีหนุด-วิรัช แบรอฮิม ชนะ ศิริวัฒน์ เจนเจริญกิจ -ดร.ศาสตรา แก้วแพง 8-2 คู่ผสม อายุรวมไม่ต่ำกว่า 120 ปี อนงค์สยาพร ปัญญาธนาศักดิ์ -ก้องเกียรติ ทิพยาไกรศรี ชนะ สิริพรรณ ลิจิตกำจร – เชื้อ โกศล 8-2
ฟุตบอล รอบ 2 ที่ สนาม.ราชภัฏสงขลา นารา เอฟซี ชนะ เทศบาลเมืองสะเตงนอกยะลา 5-3 บ้านป้อนสุข สงขลา ชนะ เทคนิคปัตตานี 6-2 อาวุโสปัตตานี ชนะ พ่อพรหม เรินเรา 3-0
ชมรมฟุตบอลศิษย์เก่านวมินทร์ ชนะ คลองเปล เอฟซี 3-0
ด้านนายฑีปวัฑฒ์ มีแสง หัวหน้าฝ่ายสุขศึกษาและประชาสัมพันธ์ นักวิชาการสาธารณะสุขชำนาญการพิเศษ กล่าวว่า ทางสาธารณะสุขจังหวัดสงขลา ในฐานะที่เป็นหน่วยงานหลักในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ภายในพื้นที่จังหวัดสงขลา ซึ่งตอนนี้มีนักกีฬา พร้อมผู้ติดตามเข้ามาในพื้นที่จังหวัดสงขลา เพื่อร่วมแข่งขันในกีฬา ไทยแลนด์ โอเพ่น มาสเตอร์เกมส์ ราว 6,000 คน
“มาตรการเบื้องต้นที่ทาง จังหวัดได้วางไว้ตั้งแต่แรกคือ นักกีฬา พร้อมเจ้าหน้าที่ ที่มาเข้าร่วมในครั้งนี้ จะต้องได้รับวัคซีน อย่างน้อย 2 เข็ม รวมถึงการตรวจหาเชื้อแบบ ATK และ RT-PCR ก่อนเข้าร่วมแข่งขัน ไม่เกิน 72 ชั่วโมง ก่อนที่จะเดินทางมาร่วมแข่งขัน ขณะเดียวกัน ก็จะมีการตรวจหาเชื้อควบคู่ไปตลอดทัวร์นาเมนต์”
“นอกจากมาตรการเบื้องต้นที่ได้เตรียมไว้ จะมีหน่วยงานในสังกัดพื้นที่ทำการเฝ้าระวังร่วมกัน โดยเฉพาะในพื้นที่ที่นักกีฬาทำการแข่งขัน และพักอาศัย ขณะเดียวกันก็ฝากกำชับถึงกลุ่มนักกีฬาผู้สูงอายุที่เข้าร่วมแข่งขันครั้งนี้ให้เฝ้าระวัง และ สังเกตุอาการ โดยเฉพาะเรื่องทางเดินหายใจ หมั่นล้างมือ สวมหน้ากากอนามัย และเลี่ยงการการสัมผัส”