พรรคการเมืองขยับปรับทัพรับกติกาใหม่…..หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ ยักษ์ใหญ่สารพัดสี จำหน่ายมากที่สุดของประเทศ ฉบับประจำวันเสาร์ที่ 23 ตุลาคม 2564
“ธนูเทพ” ประจำการรับใช้ท่านผู้อ่าน…วันนี้ตรงกับวัน “ปิยมหาราช” ประชาชนทุกหมู่เหล่าร่วมน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ที่ทรงประกาศเลิกทาส และทรงมีคุณูปการ ริเริ่มสร้างสรรค์ความเจริญหลายๆด้านให้แก่ประเทศไทยจนพัฒนาก้าวหน้ามาตราบทุกวันนี้
สถานการณ์การเมืองในห้วงหัวเลี้ยวหัวต่อช่วง ค่อนเทอมสภาผู้แทนราษฎร รัฐบาล เหลือวาระอีกปีกว่า ในขณะเดียวกันก็มีการ แก้ไขรัฐธรรมนูญ เปลี่ยนวิธีการเลือกตั้งจาก บัตรเลือก ตั้งใบเดียว มาเป็น บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ แม้อยู่ช่วงรอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญประกาศบังคับใช้อย่างเป็นทางการ และยังต้องใช้เวลาในการยก ร่าง พ.ร.บ. เลือกตั้ง และ พ.ร.บ.พรรคการเมือง ฉบับใหม่ เพื่อรองรับ รัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขเพิ่มเติม แต่ นักการเมืองเป็นมนุษย์พันธุ์พิเศษประสาทสัมผัสไวกว่าคนทั่วไป ยามนี้จึงได้เห็น ทุกพรรคการเมือง ต่างเตรียมความพร้อมสำหรับ การเลือกตั้งครั้งต่อไป กันอย่างคึกคัก จนทำให้บรรยากาศการเมืองในห้วงนี้ฝุ่นตลบไปหมด คล้ายกับว่าจะมีการ ยุบสภา เลือกตั้งใหม่กันในเร็วๆนี้…
ถึงขนาดที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ต้องย้ำหลายรอบว่า ยังไม่คิดยุบสภา และล่าสุดยังสำทับว่า เรื่องการเมืองขอให้เบาๆหน่อยช่วงนี้ เพราะยังมีปัญหาอีกมากที่ รัฐบาล ต้องแก้ไข อยากให้คำนึงถึงความยากง่ายการแก้ไขปัญหาแต่ละอย่าง ทั้ง สถานการณ์โควิด–19 เศรษฐกิจ และ การค้า รัฐบาลพยายามมีมาตรการใหม่ๆเกิดขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้ รวมถึงปัญหาระหว่างประเทศ เพราะประเทศไทยอยู่คนเดียวไม่ได้ ต้องอยู่ตรงกลาง ต้องสร้างความเข้มแข็งให้ได้ ทุกคนต้องมีส่วนร่วม แต่ถึงแม้จะมีปัญหาถาโถมเข้าใส่ ก็ขอยืนยันว่า ไม่มีท้อ รวมถึงที่มีคนมองว่าในอนาคตอาจติดปัญหาข้อกฎหมาย เรื่องห้ามดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เกิน 8 ปีนั้น ปัญหาและอุปสรรคต้องมีบางเรื่องที่วิพากษ์วิจารณ์กัน ก็ต้องดู ข้อเท็จจริง จึงขอให้ฟัง หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ชี้แจง ถ้าอยู่กันอย่างไม่ไว้ใจกัน ก็ไปไม่ได้ และจะปั่นป่วนอลหม่าน เกิดความเสียหาย ส่วนการที่พรรคการเมืองเริ่มเปิดตัวผู้นำที่เป็นแคนดิเดตชิงตำแหน่ง นายกรัฐมนตรีคิดว่าสู้ได้หรือไม่นั้น ต้องไปถามประชาชนที่จะเป็นคนเลือก…พูดง่ายๆยังสู้ไม่ถอย ถ้าถึงเวลาต้องเลือกตั้งกันจริงๆ
แต่ที่แน่ๆ หลังจาก ศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัยด้วยเสียงข้างมากว่า ไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ไม่สิ้นสมาชิกภาพ ส.ส. จากกรณีที่ ไพบูลย์ ในฐานะอดีตหัวหน้าพรรคประชาชนปฏิรูป ประกาศยุบเลิก พรรคประชาชนปฏิรูป และย้ายมาสมัครเป็นสมาชิก พรรคพลังประชารัฐ หลังจากการเลือกตั้ง ไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ…ตรงนี้จึงกลายเป็น บรรทัดฐาน ให้พรรคเล็ก สามารถดำเนินการยุบเลิกพรรคเพื่อย้ายพรรคได้ตามแนวทาง “ไพบูลย์ โมเดล”
ล่าสุด พิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธรรมไทย ออกมายืนยันชัดถ้อยชัดคำ ขณะนี้ พรรคประชาธรรมไทย มีมติ ยุบพรรค และ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) อนุมัติการยุบพรรคเรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 9 ส.ค.2564 อยู่ระหว่างการรอประกาศเรื่องการยุบพรรคอย่างเป็นทางการในราชกิจจานุเบกษาก็จะมีผลสมบูรณ์ จากนั้นจะมีเวลา 60 วัน ย้ายไปอยู่พรรคใหม่ โดยจะย้ายไปอยู่ พรรคพลังประชารัฐ ทั้งได้พูดคุยตกลงกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ เรียบร้อยแล้ว ทั้ง พล.อ.ประวิตร และ ร.อ.ธรรมนัส บอกยินดีต้อนรับเข้า พรรคพลังประชารัฐ…สำหรับสาเหตุที่ต้อง ยุบพรรคประชาธรรมไทย มาจาก 3 เหตุผล คือ แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงกติกาเลือกตั้งที่ไปใช้บัตร 2 ใบ ทำให้พรรคเล็กไปต่อไม่ได้ นโยบายพรรคประชาธรรมไทยไม่สามารถขับเคลื่อนได้จึงต้องอาศัยพรรคใหญ่ขับเคลื่อน และมีกรรมการบริหารพรรคหลายคนลาออก ทั้งนี้ ยอมรับ กติกาบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ทำให้พรรคเล็กอยู่ลำบาก หลายพรรคต้องปรับตัว ถ้าไม่ยุบรวมกับพรรคใหญ่ ก็ต้องหนีไปลงสมัคร ส.ส.เขตแทน เพราะโอกาสยากมากที่ พรรคเล็ก จะได้คะแนนบัญชีรายชื่อ 3 แสนกว่าคะแนน ถึงมีโอกาสได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 1 คน…กลายเป็น ช่องลอด ในช่วง หัวเลี้ยวหัวต่อก่อนเปลี่ยนกติกาใหม่ ให้พรรคเล็ก ส.ส.ปัดเศษ หนีตายย้ายพรรคกันเป็นแถว
เฮ้อ…จากกรณี ลูกค้าบัตรเครดิตและเดบิต จำนวนมาก ถูก แก๊งมิจฉาชีพ ดูดเงินออกจากบัญชีธนาคาร สมคิด จิรานันตรัตน์ ที่ปรึกษานโยบายด้านเทคฯ เพื่อเศรษฐกิจดิจิทัลพรรคกล้า และอดีตที่ปรึกษากรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย ออกมาชี้ว่า กรณีเงินรั่วไหลจากบัญชีธนาคารของผู้ใช้บัตรเครดิตและเดบิต จุดรั่วใหญ่สุดน่าจะอยู่ที่ ร้านค้า หรือ แอปพลิเคชัน ที่ปล่อยให้มีการชำระผ่านบัตรเครดิต หรือเดบิต ที่หละหลวมเกินไป ทำให้เกิดกรณีการใช้โปรแกรมเดาเลขที่บัตรได้ โดยขอแนะนำวิธีที่ควรแก้ไข คือ ทางด้าน ธนาคาร ควรมีระบบ Fraud Detection หรือ ระบบตรวจจับการทุจริต และควรมีระบบเตือนให้ลูกค้าทราบทุกๆรายการทาง Mobile Banking หรือ SMS นอกจากนี้ ไม่ควรรับการชำระเงินจาก ร้านค้า หรือ แอปพลิเคชัน ที่มีความหละหลวม หน่วยงานกำกับดูแลธนาคาร ควรให้ ทุกธนาคาร ต้องมีระบบเตือนทุกรายการที่มีการชำระเงิน ไม่ว่าจะเป็นการทำ ธุรกรรมเงินจำนวนน้อยหรือมาก และให้ ธนาคาร มี ระบบตรวจจับการทุจริต ที่เข้มข้นขึ้น รวมทั้งไม่ให้รับการชำระเงินจากร้านค้า แอปพลิเคชันที่หละหลวมในการตรวจสอบตัวตน…ถ้า หน่วยงานกำกับดูแล และ ธนาคาร เข้มงวดจริงจัง ก็น่าจะช่วยป้องกันไม่ให้ ลูกค้า ต้องตกเป็นเหยื่อ แก๊งมิจฉาชีพออนไลน์
สังคมทั่วไป…ศพ “อ๊อด คีรีบูน” รณชัย ถมยาปริวัฒน์ ตั้งสวดศาลา 2 วัดเขมาภิรตาราม อ.เมืองนนทบุรี 19.00 น. 23 ต.ค.คืนสุดท้าย และบรรจุศพ
“ธนูเทพ”