ธุรกิจอาหารเริ่มสดใส หลังภาครัฐปรับเวลาเคอร์ฟิว-ยืดเวลาเปิดให้บริการ “ซิซซ์เล่อร์” เร่งเครื่องลุยปลายปี พัฒนาเมนูงัดแคมเปญใหม่กระตุ้นยอดขาย พร้อมเดินหน้าขยายสาขาใหม่ พร้อมรีโนเวตร้าน รับดีมานด์ Q4 ฟื้นกลับ
วันที่ 15 ตุลาคม 2564 นายกรีฑากร ศิริอัฐ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอสแอลอาร์ที จำกัด ในเครือ เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการร้านอาหารภายใต้แบรนด์ ซิซซ์เล่อร์ เปิดเผยว่า หลังจากศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ปรับเวลาเคอร์ฟิว 23.00-03.00 น. มีผลต่อภาพรวมธุรกิจร้านอาหารที่จะได้ขยายเวลาให้บริการเพิ่มขึ้น
ซึ่งจะทำให้แนวโน้มตลาดเริ่มปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะไตรมาส 4 ถือเป็นช่วงซีซั่นการขายที่สร้างรายได้ให้กับร้านอาหาร อีกทั้งยังเป็นช่วงที่มีการแข่งขันสููง โดยจะเห็นว่าเชนร้านอาหารทั้งรายเล็ก รายใหญ่ เร่งอัดแคมเปญและโปรโมชั่นส่งเสริมการขายต่อเนื่อง
เช่นเดียวกับ ซิซซ์เล่อร์ ที่ผ่านมาทั้ง 3 ไตรมาส ของปี 2564 มีความท้าทายอย่างมาก จากมาตรการล็อกดาวน์ ต้องปรับตัวรอบด้าน ทั้งในแง่การจัดการภายใน และการบริหารงานในด้านการขาย ให้สอดคล้องกับสถานการณ์และพฤติกรรมผู้บริโภค ทำให้สัดส่วนยอดขายของดีลิเวอรี่เติบโตขึ้น แม้หลังคลายล็อกดาวน์ให้เปิดนั่งทานที่ร้านได้เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ผู้บริโภคกลับมาใช้บริการเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ภาพรวมมีการเติบโตราว 20% ถือเป็นการเติบโตเป็น 2 เท่าจากต้นปี และเป็น 3 เท่าเมื่อเทียบกับช่วงวิกฤตเดียวกันเมื่อปีที่แล้ว
ด้าน นางนงชนก สถานานนท์ ผู้ช่วยรองประธานบริหาร กลุ่มการตลาด บริษัท เอสแอลอาร์ที จำกัด ในเครือ เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการร้านอาหารภายใต้แบรนด์ ซิซซ์เล่อร์ กล่าวต่อถึงทิศทางการดำเนินงานในไตรมาส 4 บริษัทยังคงให้ความสำคัญกับกลยุทธ์รังสรรค์เมนูและแคมเปญใหม่ต่อเนื่อง ซึ่งจะมาจากข้อมูลอินไซต์ของผู้บริโภค
ล่าสุด ได้เปิดตัวเมนู อ็อกโทเบอร์เฟสต์ ประกอบด้วย 5 เมนู ได้แก่ ขาหมูทอดและไส้กรอกสไตล์เยอรมัน เสิร์ฟพร้อมสลัดบาร์ ในราคา 799 บาท ตามมาด้วยเมนู ฟิชแอนด์ชิปส์ ผสมเบียร์ สไตล์เยอรมัน เนื้อปลาชุบแป้งผสมเบียร์ทอดสไตล์เยอรมัน เสิร์ฟคู่กับเฟรนช์ฟรายส์ราคา 299 บาท และไส้กรอกรวม สไตล์เยอรมันราคา 459 บาท ชูจุดขายจากเทศกาลอาหารและเครื่องดื่มจากประเทศเยอรมนี เพื่อสร้างประสบการณ์ให้ผู้บริโภค
โดยแคมเปญดังกล่าวเปิดจำหน่ายระหว่างวันที่ 15 ตุลาคม-30 พฤศจิกายน 2564 และจะมีแคมเปญใหม่รันต่อเนื่อง และได้วางงบการทำตลาดประมาณ 4% ของยอดขายรวม เพื่อสร้างสื่อออนไลน์ และออฟไลน์ดึงความสนใจจากผู้บริโภค โดยตั้งเป้าเมนูอ็อกโทเบอร์เฟสต์จะสามารถกระตุ้นยอดขายได้ 20% และเข้ามาเสริมการเติบโตภาพรวมยอดขายในไตรมาสสุดท้ายของปี
นอกจากนี้ ยังคงเดินหน้าขยายสาขาทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดให้ครอบคลุมภายในไตรมาสสุดท้ายของปี เตรียมเปิดสาขาใหม่ในพื้นที่ศูนย์การค้าเดอะมอลล์ ท่าพระ โรบินสัน สระบุรี โรบินสัน ฉะเชิงเทรา และเซ็นทรัล ศรีราชา ให้บริการครอบคลุมทั้งการนั่งรับประทานที่ร้าน ดีลิเวอรี่ และสั่งกลับบ้าน ในขณะเดียวกันได้มีสร้าง ซิซซ์เล่อร์คลาวด์คิทเช่น (Sizzler Cloud Kitchen) หลายแห่ง อาทิ มหาวิทยาลัยเกษตร ประชาอุทิศ สุขาภิบาล 3 และดอนเมือง เพื่ออำนวยความสะดวกด้านอาหารเพิ่มขึ้น อีกทั้งยังมีการรีโนเวตสาขาเดิมอีก 7 แห่ง เพื่อสร้างบรรยากาศร้านให้แตกต่างจากเดิม
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันซิซซ์เล่อร์ได้เปิดให้บริการทั้งหมด 53 สาขาทั่วประเทศ รวมถึงซิซซ์เล่อร์ ทู โก 2 สาขา ได้แก่ เซ็นทรัลเวิลด์ และโรงพยาบาลกรุงเทพ โดยคาดว่าในช่วงระยะเวลาที่เหลือของปี 2564 หากไม่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 รอบใหม่ มั่นใจว่าสถานการณ์ของร้านอาหารจะกลับมาเปิดให้บริการเต็มรูปแบบกันมากขึ้น และมีอัตราการเติบโตดีขึ้นตามลำดับ แต่ทั้งนี้ต้องมีองค์ประกอบเรื่องวัคซีนและนโยบายของภาครัฐด้วยเช่นกัน
เผยแพร่: 3 มิ.ย. 256…
This website uses cookies.