Thailand Sport Magazine Sponsored
Categories: กรีฑา

จากคนไร้สัญชาติสู่ไอคอน : การเติบโตสู่ระดับโลกของ “ยานนิส อันเททูคุมโป” – Sanook

Thailand Sport Magazine Sponsored
Thailand Sport Magazine Sponsored

หากกล่าวถึงนักบาสเกตบอลที่มาแรงที่สุดในโลกขณะนี้ “ยานนิส อันเททูคุมโป” นักบาสชาวกรีซแห่ง มิลวอกี บักส์ ย่อมเป็นใครคนนั้น เพราะนอกจากจะเพิ่งคว้าแชมป์ NBA เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา เขายังเป็นเจ้าของตำแหน่งผู้เล่นยอดเยี่ยม 2 ปีซ้อน

แต่กว่า ยานนิส จะก้าวมาถึงจุดนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย หรืออาจกล่าวได้ว่าเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เพราะเขาไม่เพียงเติบโตมาจากครอบครัวยากจน แต่พ่อแม่ของยานนิสยังเป็นผู้อพยพที่อาศัยอยู่แบบผิดกฎหมาย นั่นจึงทำให้เขาเป็นคนไร้สัญชาติ และต้องขายของอยู่ริมถนนจนอายุ 17 ปี

นี่คือเรื่องราวสร้างแรงบันดาลใจของ ยานนิส อันเททูคุมโป ที่ยืนยันว่ามนุษย์ทุกคนมีความฝันและความสามารถเท่าเทียมกัน แม้จะถูกกั้นขวางด้วยอุปสรรคทางเชื้อชาติก็ตาม

ลูกชายของแรงงานผิดกฎหมาย

หากคุณเดินไปตามท้องถนนในประเทศไทย แล้วพบเจอกับเด็กชายผู้เป็นลูกของแรงงานผิดกฎหมายจากประเทศเพื่อนบ้าน เมื่อคุณเริ่มสงสัยว่าเด็กที่อยู่ตรงหน้าคนนี้จะสามารถเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพได้หรือไม่? นั่นคือวินาทีที่คุณมีความเห็นตรงกันกับชาวกรีซที่ได้พบเจอ ยานนิส อันเททูคุมโป ในวัยเยาว์

ยานนิส ลืมตาดูโลกที่กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ เมื่อเดือนธันวาคม ปี 1994 เขาเป็นลูกชายคนที่สองของชาร์ลส์ และ เวโรนิก้า แรงงานอพยพผิดกฎหมายจากประเทศไนจีเรีย ที่ลักลอบเข้ามาทำงานในประเทศกรีซ โดยปราศจากเอกสารรับรองของรัฐบาลประเทศต้นทาง

แม้จะเกิดในประเทศกรีซ แต่ ยานนิส และพี่น้องของเขาอีกสามคน กลับไม่ได้รับสิทธิเป็นพลเมืองของประเทศกรีซ เนื่องจากพ่อแม่ของเขาถือว่าเป็นแรงงานผิดกฎหมาย อนาคตซูเปอร์สตาร์แห่งวงการบาสเกตบอลรายนี้ จึงเติบโตขึ้นมาในฐานะบุคคลไร้สัญชาติ แต่นี่เป็นเพียงปัญหาเล็กน้อยเท่านั้น หากเทียบกับสิ่งที่ครอบครัวอันเททูคุมโปต้องพบเจออยู่ทุกวัน

ทางการของกรีซยืนยันชัดเจนว่า แรงงานผิดกฎหมายจากทวีปแอฟริกาไม่มีสิทธิอยู่ในประเทศแห่งนี้อีกต่อไป แต่คำสั่งของรัฐบาลต้องต่อสู้กับความดื้อรั้นของผู้อพยพชาวไนจีเรีย ชาร์ลส์ และ เวโรนิก้า ยืนยันว่าพวกเขายอมเสี่ยงตายอยู่ที่นี่ดีกว่าจะกลับไปเผชิญชะตากรรมอันเลวร้ายในบ้านเกิด

ครอบครัวอันเททูคุมโปจึงหลบซ่อนอยู่ในแฟลตแห่งหนึ่งบริเวณตอนเหนือของเอเธนส์ ซึ่งเป็นย่านเสื่อมโทรม โดยชาร์ลส์ต้องออกไปทำงานแปลกๆมากมาย ซึ่งแน่นอนว่ามีความเสี่ยงและรายได้ต่ำ ส่วนเวโรนิก้าทำหน้าที่เลี้ยงลูกๆ และคอยช่วยเหลือ ยานนิส เมื่อลูกชายของเธอทำงานด้วยการขายของละเมิดลิขสิทธิ์ข้างถนน

“เราขายสินค้าหลายอย่างมาก นาฬิกา กระเป๋าถือ แว่นกันแดด พวงกุญแจ ซีดี ดีวีดี หรืออะไรก็ตามที่เราสามารถหามาขายได้ ซึ่งผมเก่งมากนะในการขายของพวกนั้น ถือเป็นหนึ่งในยอดฝีมือเลยล่ะ เพราะผมรักที่จะทำงานแบบนั้น ที่จะได้ใช้เวลาร่วมกับแม่ของผม” ยานนิส นึกย้อนไปถึงชีวิตวัยเด็กของตน

“ชีวิตในวัยเด็กมีอิทธิพลต่อแนวคิดการทำงานของผม ผมเห็นพ่อแม่ทำงานหนักทุกวันเพื่อเลี้ยงดูพวกเรา มันเป็นภาพที่เหลือเชื่อและติดอยู่ในใจผมมาตลอดทั้งชีวิต ผมไม่ได้ทำงานเพราะผมต้องการชื่อเสียง แต่เป็นเพราะผมต้องการเงิน นั่นคือชีวิตที่ผมเติบโตมา และเป็นตัวตนที่ผมได้รับมาจากพ่อแม่ด้วยการทำงานหนักของพวกเขา”

เดินหน้าล่าฝันแม้ไร้สัญชาติ 

ถึง ยานนิส จะมีพรสวรรค์อันเป็นเลิศในการขายของข้างถนน แต่ความฝันเดียวของเขาตั้งแต่เด็กคือการก้าวเป็นนักฟุตบอลอาชีพ เนื่องจากคุณพ่อ ชาร์ลส์ เคยเป็นนักฟุตบอลมาก่อน ซึ่งแน่นอนว่าชาร์ลส์ไม่ใช่นักฟุตบอลที่ประสบความสำเร็จ แต่ความฝันบนเส้นทางลูกหนังก็ถูกส่งต่อมาให้ยานนิส

ยานนิสเติบโตขึ้นมาด้วยการเป็นแฟนบอลทีม โอลิมเปียกอส ที่มี จิโอวานนี (Giovanni Silva de Oliveira) ศูนย์หน้าของทีมเป็นไอดอล ความฝันของเขาในวัยเด็กจึงเป็นรอบชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ไม่ใช่การคว้าแชมป์โลกบาสเกตบอล และเจ้าของตำแหน่ง MVP แห่ง NBA อย่างที่เราเห็นกันในปัจจุบัน

จุดเปลี่ยนที่พายานนิสเลี้ยวจากกีฬาฟุตบอลสู่บาสเกตบอลเกิดขึ้นตอนเขาอายุได้ 12 ปี หลังจากเขาได้พบกับ สไปรอส เวลลิเนียติส (Spiros Velliniatis) ที่มาพบเห็นยานนิสและพี่ชายกำลังเล่นฟุตบอลในสนามแห่งหนึ่ง โดยในสายตาของแมวมองรายนี้ เขารู้ทันทีว่ายานนิสจะก้าวเป็นดาวดัง แต่เป็นในวงการบาสเกตบอลไม่ใช่ฟุตบอล

“มันไม่ใช่แค่ผมเห็นนักบาสที่มีทิศทางการเคลื่อนไหวและความเข้าใจอย่างยอดเยี่ยม แต่ผมเห็นนักกีฬาที่มีแพชชั่นในการคว้าชัยชนะ หากคุณเปิดตาให้กว้าง คุณจะพบนักกีฬาที่มีความสามารถ เมื่อเขาถือลูกบาสอยู่ในมือ ไม่ใช่ยามเลี้ยงลูกฟุตบอลอยู่กับเท้า” สไปรอส กล่าว

ไม่ใช่เรื่องง่ายที่สไปรอสจะเชิญชวนให้ยานนิสเปลี่ยนใจมาเล่นบาสเกตบอลได้ เหตุผลไม่ใช่แค่เรื่องแพชชั่นส่วนตัวของยานนิสที่เอียงไปทางเกมลูกหนังมากกว่า แต่ยังเป็นเรื่องของมุมมองของชาวแอฟริกันที่ไม่ได้ให้ความสำคัญกับกีฬาบาสเกตบอลเท่ากับกีฬาชนิดอื่นที่โด่งดังในกาฬทวีป เช่น ฟุตบอล หรือ กรีฑา การเชิญชวนให้ครอบครัวครอบอันเททูคุมโปเห็นโอกาสในเกมยัดห่วงจึงเป็นโจทย์ใหญ่ของแมวมองรายนี้

“เมื่อคุณพบเจอเด็กจากแอฟริกา บ่อยครั้งที่ครอบครัวของพวกเขาไม่ให้ความเคารพต่อกีฬาบาสเกตบอล แตกต่างจากฟุตบอลหรือกรีฑา ที่พวกเขามองว่าเป็นตัวเลือกเดียวสำหรับอาชีพนักกีฬาที่สามารถสร้างรายได้ ขณะเดียวกันสโมสรบาสเกตบอลในกรีซก็มองเห็นปัญหาทางวัฒนธรรมที่อาจเกิดขึ้น เนื่องจากการพาเด็กจากชุมชนชายขอบเข้ามา”

“พวกเขาคิดว่าหากเรานำเด็กแอฟริกันสัก 2-3 คนเข้ามา มันจะนำมาสู่การแบ่งพรรคแบ่งพวกภายในทีม เพราะพวกเขารู้ดีถึงปัญหาสังคมที่เกิดขึ้นในย่านของเด็กเหล่านั้น หากครอบครัวของพวกเขาต้องการให้เด็กไปทำงาน นั่นหมายความว่าเด็กอาจจะไม่ได้มาฝึกซ้อม นี่จึงไม่ใช้ปัญหาทางสีผิวเสมอไป แต่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงในสังคม”

เพื่อจะมัดใจให้ยานนิสเปลี่ยนมาเล่นบาสเกตบอล ฟิลาธิลติกอส (Filathiltikos) ทีมในลีกระดับสามของกรีซ จึงเสนองานประจำให้ชาร์ลส์และเวโรนิก้า หากยานนิสและธานาสิส (พี่ชายของยานนิส) ยอมมาฝึกซ้อมบาสเกตบอลกับทางสโมสร ซึ่งทางครอบครัวผู้อพยพชาวไนจีเรียตอบตกลง

เมื่อได้รับโอกาส ยานนิสและพี่ชายฝึกซ้อมอย่างเต็มที่ในโรงยิมของฟิลาธิลติกอส หลายครั้งที่สองพี่น้องไม่ได้เดินทางกลับบ้านและหลับนอนอยู่ในสนามบาส นอกจากนี้ยานนิสยังพัฒนาตัวเองด้วยการดูคลิปการแข่งขัน NBA ในยูทูบ โดยมี อัลเลน ไอเวอร์สัน ตำนานของ ฟิลาเดลเฟีย เซเว่นตี้ซิกเซอร์ส เป็นไอดอลของเขาสำหรับโลกบาสเกตบอล

ยานนิสในวัย 17 ปี ยังคงช่วยแม่ขายของข้างถนนในประเทศกรีซเหมือนเดิม แต่ในขณะนี้ชีวิตอีกด้านของเขาเป็นนักบาสเกตบอลชุดเยาวชนของฟิลาธิลติกอส และทำแต้มนัดละ 50 คะแนนเป็นประจำ จนกระทั่งได้เซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการกับสโมสร

แต่ถึงอย่างนั้น หนทางสู่ NBA ของยานนิสยังอีกยาวไกล เพราะเขายังคงเป็นคนไร้สัญชาติ และยังคงเป็นคนชายขอบของสังคมโลก เหมือนกับในวันแรกที่เขาลืมตาดูโลกเมื่อเกือบ 20 ปีก่อน

แรงบันดาลใจของลูกหลานผู้อพยพ

กล่าวตามตรง พรสวรรค์ของยานนิสดีพอจะก้าวขึ้นไปเล่นในลีกสูงสุดและติดทีมชาติกรีซได้สบาย แต่ด้วยสถานะของเขาที่ยังคงเป็นคนไร้สัญชาติ ส่งผลให้ประตูแห่งโอกาสของยานนิสถูกปิดกั้น แต่ทองแท้ย่อมไม่แพ้ไฟ ยานนิสเองก็เช่นกัน ชื่อเสียงของเขาเริ่มดังไปเข้าหูแมวมองของหลายทีมใน NBA ในที่สุด เรื่องอันน่าเหลือเชื่อจึงเกิดขึ้น

29 แฟรนไชส์ใน NBA ยกเว้นเพียง นิวยอร์ก นิกส์ ได้ส่งแมวมองจากสหรัฐอเมริกาเดินทางมาที่ประเทศกรีซ เพื่อดูฟอร์มของยานนิสด้วยตาตัวเอง ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทุกทีมต้องการตัวเขา และยานนิสก็พร้อมใส่ชื่อตัวเองเป็นหนึ่งในตัวเลือกของ NBA Draft ปี 2013 

แต่ปัญหาติดอยู่ที่ว่า ยานนิส ไม่มีพาสปอร์ตที่ได้การรับรองจากประเทศใดในโลก และถ้าเขาไม่สามารถเดินทางออกนอกประเทศได้ ความฝันบนเวทีของยานนิสคงสิ้นสุดลงตั้งแต่ยังไม่ทันเริ่ม

ยานนิสยื่นคำร้องขอสัญชาติกรีซมาแล้วนานกว่า 2 ปี ซึ่งคำร้องของเขาไม่เคยได้รับการตอบสนอง กระทั่งเหลือเวลาอีกไม่ถึง 2 เดือน ก่อนที่ NBA Draft ปี 2013 จะเกิดขึ้น แต่สุดท้ายยานนิสก็ได้รับพาสปอร์ตของประเทศกรีซ ในวันที่ 9 พฤษภาคม ปี 2013 และพร้อมจะเดินทางสู่เส้นทางใหม่ที่แตกต่างออกไปโดยสิ้นเชิงในสหรัฐอเมริกา

ยานนิสถูกดราฟต์โดย มิลวอกี บักส์ ในลำดับที่ 15 ของ NBA Draft ปี 2013 ก่อนที่เจ้าของฉายา “กรีก ฟรีก” จะกลายเป็นผู้เล่นที่ดีที่สุดในวงการบาสเกตบอลยุคปัจจุบัน จากการคว้าตำแหน่งผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลในปี 2019 และ 2020 รวมถึงตำแหน่งแชมป์ NBA ในปี 2021

“ผมยังจดจำช่วงเวลานั้นได้ดีนะ แต่ผมไม่สามารถกลับไปดูสุนทรพจน์ของผมในวันนั้นได้อีกแล้ว” ยานนิส กล่าวถึงวันที่เขาคว้าตำแหน่ง MVP เมื่อปี 2019 ซึ่งเขาพูดความรู้สึกของตนทั้งน้ำตา

“ผมยังคงรู้สึกอ่อนไหวทุกครั้ง เมื่อผมมองออกไปยังผู้คนรอบกาย และย้อนกลับไปมองชีวิตของผมตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้ ผมคิดเสมอว่า ตัวเองก้าวมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร?”

ครั้งหนึ่ง ยานนิส เคยเป็นเด็กไร้สัญชาติ ทำงานช่วยแม่ขายของอยู่ริมถนน และอาศัยในแฟลตเก่าๆที่ประเทศกรีซ แต่วันนี้เขาคว้าสัญญายาว 5 ปี มูลค่า 228 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นสัญญามูลค่าสูงสุดตลอดกาลในประวัติศาสตร์ NBA ไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่เจ้าตัวยังไม่เชื่อการเดินทางที่ผ่านมาของตนเอง

แต่ถ้าหากพูดถึงความสำเร็จที่น่าภาคภูมิใจที่สุดในชีวิตของยานนิส ถ้วยแชมป์หรือรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมอาจไม่มีความหมายเท่า การได้รับสิทธิเป็นพลเมืองสัญชาติกรีซอย่างเป็นทางการ เมื่อเดือนกรกฎาคม 2021 หลังรัฐบาลกรีซปรับข้อกฎหมายเพื่อเปิดทางให้เด็กทุกคนที่เกิดและเติบโตในกรีซสามารถได้รับสิทธิพลเมืองของประเทศ แม้จะมีพ่อแม่เป็นชาวต่างชาติก็ตาม

“พวกเขาเปลี่ยนแปลงข้อกฎหมาย ซึ่งผมคิดว่าเรื่องเหล่านี้ได้รับผลกระทบจากผมน้อยมาก” ยานนิส กล่าวอย่างถ่อมตน เมื่อหลายคนมองว่าเขาเป็นสาเหตุของการแก้ไขกฎหมายดังกล่าว

“มีเด็กจำนวนมากที่เกิดจากพ่อแม่ผู้อพยพและจะได้รับโอกาสเช่นเดียวกับผม เพราะมีเด็กอีกหลายคนที่จะเติบโตเป็นคนพิเศษในอนาคต ขอเพียงแค่ให้พวกเขาได้รับโอกาสเท่านั้นเอง”

เรื่องราวของ ยานนิส อันเททูคุมโป จึงกลายเป็นเรื่องราวที่สร้างแรงบันดาลใจ ไม่ใช่เพราะมันเป็นการเดินทางของนักสู้คนหนึ่ง แต่มันยังพูดถึงโอกาสที่ไม่เท่าเทียมของมนุษย์ เพียงแค่พวกเขามีสีผิวต่างกัน แต่ยานนิสก็ทำลายกำแพงนั้นได้สำเร็จ และเขาได้เปิดเส้นทางแห่งโอกาสให้กับนักกีฬารุ่นหลังมากมาย

หากหลายประเทศเรียนรู้สิ่งที่เกิดขึ้นกับชีวิตของนักบาสเกตบอลรายนี้ โลกของเราคงหมดสิ้นปัญหาเหยียดสีผิวโดยเร็ว เพราะ ยานนิส อันเททูคุมโป แสดงให้เห็นว่า คุณค่าของคนไม่เกี่ยวกับสีผิวหรือพื้นเพที่แตกต่างกัน แต่คือความฝัน ความสามารถ และความรักที่จะดำเนินชีวิตในฐานะมนุษย์ผู้มีจุดหมายคนหนึ่งต่างหาก

Thailand Sport Magazine Sponsored
ผู้สื่อข่าว กีฬา

ข่าวกีฬา นักกีฬา กีฬา ในร่ม indoor outdoor ต้องทำ sport ให้เป็น กีฬา หลักของประเทศ ดูข้อมูล กอล์ฟ บาสเก็ตบอล ฟุตบอล ว่ายน้ำ วอลเล่ย์บอล มวย แข่งรถ แบดมินตัน และ อีสปอร์ต Dedicated to all sport news from Thailand, with news updates, stories and event reports on many different types of sporting activities that the Thailand currently holds, across all of the asia.

This website uses cookies.