กรีฑาไทยล็อคเป้าซิว 12 เหรียญทองเป็นอย่างน้อยในศึกซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่ประเทศเวียดนาม “แฝดใหญ่” พล.ต.ต.สุรพงษ์ อาริยะมงคล อุปนายกและเลขาธิการสมาคมกีฬากรีฑาฯ รับหนักใจไม่น้อยในการลงชิงชัยรอบนี้ เหตุแทบไม่มีข้อมูลคู่แข่งเลย เพราะสถานการณ์โควิด-19 ทำให้แทบไม่มีรายการแข่งขันนานาชาติ แต่ยังเชื่อมั่นนักกรีฑาไทยทำผลงานได้ตามเป้า พร้อมเชื่อ ภูริพล บุญสอน และ สรอรรถ ดาบบัง 2 ลมกรดเลือดใหม่ มีโอกาสแจ้งเกิดในซีเกมส์ครั้งนี้
พล.ต.อ.สันต์ ศรุตานนท์ นายกสมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นประธานในการประชุมสามัญประจำปี พ.ศ.2565 ที่ห้องประชุมสหพันธ์กรีฑาแห่งเอเชีย ภายในศูนย์กีฬามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อวันเสาร์ที่ 30 เม.ย.65 โดยมีบรรดาสโมสรสมาชิกมาร่วมประชุมกันอย่างพร้อมหน้า
ทั้งนี้ที่ประชุมได้มีการรายงานกิจกรรมของสมาคมในรอบปีที่ผ่านมา รวมไปถึงผลงานของนักกีฬาไทย ในการแข่งขันทัวร์นาเมนต์ระดับนานาชาติ ในรอบปี พ.ศ.2564 สำหรับสาระสำคัญของการประชุมครั้งนี้ คือการเปิดตัว 65 ขุนพลนักกรีฑาทีมชาติไทย ที่จะเดินทางไปทำศึกกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่กรุงฮานอย ประเทศเวียดนามเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน ระหว่างวันที่ 14-19 พ.ค.65 ที่สนามกีฬาแห่งชาติมีดิ่งสเตเดี้ยม โดยมีการชิงชัยทั้งสิ้น 47 เหรียญทอง
“แฝดใหญ่” พล.ต.ต.สุรพงษ์ อาริยะมงคล อุปนายกและเลขาธิการสมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เผยว่า การเดินทางไปแข่งซีเกมส์ครั้งนี้ นับว่าน่าหนักใจไม่น้อย เนื่องจากไม่รู้ความเคลื่อนไหวของคู่แข่งชาติอื่นเลย ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากวิกฤติโรคระบาดโควิด-19 ทำให้นักกรีฑาไทยเองรวมไปถึงชาติอื่นๆในอาเซียน แทบไม่ได้ลงแข่งขันรายการระดับนานาชาติ จึงไม่รู้ว่าสถิติของคู่แข่งเป็นอย่างไร
ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ทางสมาคมกรีฑาได้มีการเก็บตัวฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่อง จนได้ลมกรดเยาวชนมากความสามารถขึ้นมาเสริมทีมชาติชุดใหญ่ โดยเฉพาะ “บิว” ภูริพล บุญสอน ดาวรุ่งวัย 16 ปี แต่สามารถทำลายสร้างสถิติประเทศไทยในรายการวิ่ง 100 เมตรชาย และ 200 เมตรชายขึ้นมาใหม่ นอกจาก ภูริพล แล้ว ก็ยังมี สรอรรถ ดาบบัง ลมกรดหนุ่มวัย 19 ปี ที่ทำสถิติได้ดีจากศึกชิงแชมป์ประเทศไทยครั้งล่าสุด ซึ่งลมกรดดาวรุ่งทั้งสอง จะเป็นกำลังสำคัญในการล่าเหรียญทองวิ่งระยะสั้นในกีฬาซีเกมส์ครั้งนี้
“เป้าหมาย อย่างที่ได้เรียนไปในงาน มีตเดอะเพรส ครั้งที่ 31 แล้วว่า เราได้ตั้งเป้าที่จะคว้า 12 เหรียญทองเป็นอย่างน้อย ส่วนจะแย่งตำแหน่งเจ้าเหรียญทองมาจากเวียดนามได้หรือไม่นั้น ก็ต้องไปวัดกันในวันแข่งขันจริง” แฝดใหญ่กล่าว
นอกจากนี้ อุปนายกและเลขาธิการสมาคมฯ ยังกล่าวอีกว่า นอกจากซีเกมส์แล้ว ภารกิจของสมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทยในปีนี้ คือการส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันในรายการต่างๆ อาทิ กีฬามหาวิทยาลัยโลกครั้งที่ 31 ที่เมืองเฉิงตู ประเทศจีน ระหว่างวันที่ 26 มิ.ย. – 7 ก.ค.65 และกรีฑาเยาวชนรุ่นอายุไม่เกิน 20 ปีชิงแชมป์โลก
Add friend ที่ @Siamsport