ทัพพาราไทย ที่เพิ่งคว้ารองแชมป์อาเซียน พาราเกมส์ ครั้งที่ 11 ที่อินโดนีเซีย วางเป้าหมายสำหรับการแข่งครั้งหน้าที่กัมพูชา ปี 2023 ว่าต้องทวงความเจ้าเหรียญทองให้ได้
เกาะติดข่าว กดติดตาม ข่าวสด
ทัพพาราไทย คว้ารองแชมป์ อาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 11 ที่เมืองสุราการ์ตา (โซโล) ประเทศอินโดนีเซีย ต้องกลับมาเตรียมความพร้อมเพื่อไปทวงแชมป์อาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 12 ที่ประเทศกัมพูชา ปี 2023
มหกรรรมกีฬาคนพิการ อาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 11 ที่เมืองสุราการ์ตา (โซโล) ประเทศอินโดนีเซีย ปิดฉากลงอย่างเป็นทางการ โดยทัพนักกีฬาไทย ทำได้ 116 เหรียญทอง 111 เหรียญเงิน 90 เหรียญทองแดง คว้าตำแหน่งรองเจ้าเหรียญทอง ขณะที่อินโดนีเซียเจ้าภาพได้เจ้าเหรียญทองสมัยที่ 3 ทำได้ 171 เหรียญทอง 138 เหรียญเงิน 110 เหรียญทองแดง
- น้องนิว พลาดเหรียญรางวัลให้ทัพไทยส่งท้ายศึกเทควันโดเยาวชนโลก
ทัพนักกีฬาไทย ได้เดินทางกลับถึงไทยแล้วเมื่อวันที่ 7 ส.ค. โดย พลตรีโอสถ ภาวิไล ประธานสหพันธ์กีฬาคนพิการแห่งอาเซียนและเลขาธิการคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า นักกีฬาของทุกสมาคมจะกลับมาเตรียมความพร้อมอีกครั้งเพื่อไปคว้าตำแหน่งเจ้าเหรียญทองอาเซียนพาราเกมส์ให้ในครั้งที่ 12 ที่กัมพูชา ปี 2023 โดยไทยเป็นเจ้าเหรียญทองอาเซียนพาราเกมส์มากที่สุด 6 สมัย จากทั้งหมด 10 ครั้ง (ครั้งที่ 10 ที่ฟิลิปปินส์ถูกยกเลิก)
“กีฬาอาเซียนพาราเกมส์ครั้งต่อไปที่กัมพูชา อาจจะมีการบรรจุกีฬาหมากรุกชิงชัยเหรียญทองมากถึง 30 เหรียญทอง เพราะเป็นกีฬาที่เจ้าภาพถนัด ซึ่งอาจจะส่งผลต่อการลุ้นตำแหน่งเจ้าเหรียญทองของไทย ดังนั้นสหพันธ์กีฬาคนพิการอาเซียน และคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย จะพยายามดำเนินการเรื่องนี้ให้ออกมาเหมาะสมที่สุด แต่สุดท้ายแล้วเรายังมองว่าถ้านับการชิงชัยในชนิดกีฬาสากล ประเทศไทยมีศักยภาพมากพอที่จะทวงแชมป์กลับมาได้”
สำหรับอาเซียนพาราเกมส์ ในยุคปัจจุบันนี้ พลตรีโอสถ กล่าวว่า แต่ละประเทศตอนนี้จะมีตำแหน่งที่เรียกว่าผู้ตรวจระดับความพิการ ซึ่งถือเป็นด่านแรกของกีฬาคนพิการที่จะทำให้เกมมีความเสมอภาค ไม่เอาเปรียบกัน เพราะการตรวจสอบที่แน่นอนในการจัดคลาสถือเป็นเรื่องสำคัญ ที่จะทำให้การแข่งขันอยู่ในระดับสากล สามารถรับรองคลาสได้อย่างมีมาตรฐาน
นอกจากนี้ยังมีเรื่องของตำแหน่งผู้แทนฝ่ายเทคนิคประจำภูมิภาค ซึ่งของอาเซียนที่ผ่านมาจะต้องเชิญจากชาติภูมิภาคอื่นมาร่วมดำเนินการ หากในอาเซียนมีเจ้าหน้าที่ของตัวเองจะช่วยในเรื่องของการลดค่าใช้จ่ายได้อย่างมาก
จึงอยากให้สมาคมกีฬาคนพิการในประเทศไทยได้มีการเรียนรู้และพัฒนา ยกระดับมาตรฐานบุลคลากรไปสู่สากล และประการสุดท้ายคือ อยากให้มีการจัดแข่งขันชิงแชมป์อาเซียนของกีฬาแต่ละชนิดให้มากขึ้น เพื่อที่จะช่วยในการควอลิฟายนักกีฬาที่จะได้ไปแข่งขันมหกรรมกีฬาพาราลิมปิกเกมส์ต่อไป