พ่อตกงานเพราะโควิด ว่ายน้ำไม่เป็นแต่ทำทุ่นจากกระติดลงสระไปเก็บดอกบัวขาย หาเงินเลี้ยงลูก 3 คน เคราะห์ร้ายจมน้ำดับ
(11 พ.ค.64) ร.ต.ท.(หญิง) มนัสนันท์ บุรีภักดี รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองนครพนม รับแจ้งเหตุพบศพคนจมน้ำเสียชีวิต ที่สระน้ำหนองคำผักหนอก บ.นามูลฮิ้น หมู่ 9 ต.นาทราย อ.เมือง จ.นครพนม จึงประสานแพทย์เวรโรงพยาบาลนคพรนม เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่กู้ภัยศรีสัตตนครพนม และรถกู้ชีพ อบต.นาทราย ร่วมชันสูตรศพ โดยในที่เกิดเหตุเป็นหนองน้ำสาธารณะห่างหมู่บ้าน ประมาณ 2 กม. ห่างถนน ทล.ชนบท นพ.2019 สายนามูลฮิ้น-รามราช 500 เมตร
พบสระกว้าง 50 เมตร ยาว 70 เมตร ลึก 2-3 เมตร พบมีบัวหลวง เต็มสระ ชาวบ้านได้พากันงมศพผู้เสียชีวิตขึ้นมาจากสระน้ำ ทราบชื่อภายหลังคือ นายไพโรจน์ อายุ 48 ปี สวมเสื้อยืดแขนยาวสีดำ กางเกงขายาวสีดำ มือหงิกเกร็ง ลำตัวซีดเซียว ใกล้กันพบกระติกน้ำพลาสติกสีขาว 2 ใบ ผูกด้วยผ้าขาวม้าติดกัน คาดว่าใช้เป็นทุนลอยเหนือน้ำ และยังพบบัวที่เด็ดแล้ว 8 ฝักกองอยู่ริมตลิ่ง เจ้าหน้าที่ชันสูตรไม่พบบาดแผลหรือร่องรอยการทำร้ายแต่อย่างใด สันนิษฐานว่าเสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3-4 ชั่วโมง
จากกการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ ญาติผู้ตาย ให้การว่า ปกติผู้ตาย จะมีอาชีพรับจ้างทั่วไป และทำงานก่อสร้างช่างปูน ส่วนภรรยา มีอาชีพรับจ้างร้านขายก๋วยเตี๋ยว แต่ช่วงนี้พากันตกงาน ไม่มีงานทำ ขาดรายได้จากพิษโควิด แต่ต้องดิ้นรนหาเงินเลี้ยงครอบครัว เพราะมีลูกอีก 3 คน เป็นชาย 2 หญิง 1 คน อายุระหว่าง 7 -12 ขวบ ต้องมีค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ผู้ตายจึงหารายได้ด้วยการออกไปเก็บบัวขายในสระน้ำสาธารณะ
โดยวันเกิดเหตุผู้ตายได้ออกไปคนเดียวตั้งแต่ช่วงเช้าประมาณ 9 โมง จนกระทั่งภรรยาผิดสังเกตถึงช่วงเย็นยังไม่กลับมา และติดต่อไม่ได้ จึงตามไปดู พบผิดปกติ จึงเรียกชวาบ้านมาตรวจสอบ พบจมน้ำเป็นศพแล้ว คาดว่าผู้ตายใช้ทุ่นกระติกน้ำลอยไปเก็บบัวในจุดน้ำลึก แต่อาจเกิดตะคริว หรือหลุดจากทุ่นกระติกน้ำ ทำให้พลัดจมน้ำ เพราะว่ายน้ำไม่เป็น หลังพบศพภรรยาถึงกับช็อก เพราะต้องสูญเสียเสาหลัก ซ้ำเติมชีวิตในช่วงสถานการณ์โควิด