“ณิชา” เผยทีมงานและโตโน่วางแผนว่ายน้ำข้ามน้ำโขงอย่างรัดกุม หากไม่ปลอดภัยจะหยุดทันที ส่วนตนเองเตรียมซ้อมรำบูชาพญานาค
ใกล้ถึงวันจัดกิจกรรม “One Man and The River หนึ่งคนว่าย หลายคนให้” เป็นโครงการที่หนุ่ม “โตโน่ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์” ต้องว่ายน้ำข้ามแม่น้ำโขงเพื่อรับบริจาคนำเงินไปซื้อเครื่องมือแพทย์ให้กับโรงพยาบาลที่ขาดแคลน แต่ก็เกิดกระแสดราม่าอย่างหนักหน่วงทุกวัน เพราะหลายคนมองว่านำคนหมู่มากไปเสี่ยงอันตราย แต่ถึงจะเกิดดราม่าแค่ไหนด้านน้องสาวคนสนิทอย่าง “ณิชา ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์” ก็คอยให้กำลังใจและอยู่เคียงข้างหนุ่มโตโน่เสมอมา
ล่าสุดเมื่อได้เจอสาวณิชาในงานบวงสรวงภาพยนตร์เรื่อง “14 อีกครั้ง I Love You Two Thousand” จึงได้ถามสอบถามณิชาถึงประเด็นดราม่านี้ ซึ่งสาวณิชาก็ตอบว่าตนเองคอยให้กำลังใจหนุ่มโตโน่ ล่าสุดหนุ่มโตโน่ได้เข้าทดสอบร่างกายและคุณหมอก็อนุญาติให้ว่ายน้ำได้เพราะร่างกายแข็งแรงดี พร้อมบอกว่าว่าแรก ๆ หนุ่มโตโน่อาจจะมีเครียดบ้างแต่ตอนนี้ก็โฟกัสในสิ่งที่จะทำมากกว่า ส่วนด้านคอมเมนต์ณิชาบอกว่าไม่สามารถห้ามความคิดใครได้ ใครคิดอะไรก็เป็นส่วนของเขา ตนเองและโตโน่โฟกัสในสิ่งที่จะทำเพราะรู้ดีว่ากระบวนทำงานและทีมงานของตนเองเป็นอย่างไร และส่วนตัวสาวณิชาไม่เคยห้าม แต่ขอใช้คำว่าเป็นห่วงมากกว่า ด้วยการที่รับรู้การทำงานชัดเจนมาตั้งแต่แรก และรู้ว่าหน้าน้ำเป็นแบบไหน ทุกฝ่ายเวลาประชุมก็รับรู้ตลอดว่าเป็นอย่างไร ก็สามารถช่วยเหลือโรงพยาบาลทั้งสองได้ ส่วนตัวเองณิชาจึงคิดว่าชีวิตคนถ้าไม่มีเครื่องมือรักษามันไม่สามารถรอได้หากเกิดอะไรฉุกเฉินขึ้นแล้วไม่มีเครื่องมือตรงนั้น จึงอยากจะช่วยตรงนี้ ส่วนประเด็นที่หลายคนถามว่าทำไมหนุ่มโตโน่ถึงไม่จัดคอนเสิร์ตแทนการว่ายน้ำ สาวณิชาตอบว่า “ช่วยน้ำท่วมปกติพี่โน่ก็จะช่วยอยู่แล้วในทุกๆ ปี ส่วนคอนเสิร์ตก็เพิ่งจัดไปค่ะ หลายๆ คนอาจจะไม่ได้รับรู้ ไม่ทราบว่าเขาก็เพิ่งจัดไปและได้นำเงินไปบริจาคเหมือนกัน อันนี้ก็เป็นอีกกิจกรรมหนึ่งของเขา แล้วก็มีโครงการเก็บรักษ์ด้วยที่ดูแลเรื่องสิ่งแวดล้อมตามโรงเรียน” พร้อมเผยว่าตนเองค่อนข้างไว้ใจทีมงาน เพระาทุกฝ่ายว่างแผนได้รัดกุมและปลอดภัย และได้คุยกันตั้งแต่เริ่มโปรเจกต์หากไปไม่ได้ก็คงจะไม่เสี่ยงอันตราย ส่วนตัวสาวณิชาตอนนี้เผยว่ากำลังเตรียมซ้อมรำบูชาพญานาคที่จังหวัดนครพนม ส่วนในเรื่องความปลอดภัย ยืนยันว่าไว้ใจในทีมงาน ทุกฝ่าย หากสภาพอากาศไม่เป็นใจก็จะหยุดแน่นอน “คือเขาไม่ได้อยู่ดีๆ ก็จะว่ายขึ้นมา คือทีมก็คุยกันตั้งแต่เริ่มโปรเจ็กต์แล้วค่ะ ว่าถ้าเป็นไปไม่ได้ก็ไม่ทำ คือเราจะไม่เสี่ยงอันตรายที่มันมากจนเกินไป เราคุยกันมาตลอดอยู่แล้ว เราก็ไม่อยากให้ใครมาเป็นอะไรกับโปรเจ็กต์นี้ เพราะเราตั้งใจที่จะทำให้คนอื่น เราไม่ได้อยากให้มันเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น ไม่ไหวไม่ฝืนแน่นอน เราไม่ได้อยากช่วยคน จนพวกเราเสี่ยง”
