รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศแผนปล่อยน้ำจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะที่เกิดภาวะหลอมละลายเพราะภัยพิบัติสึนามิเมื่อ 10 ปีก่อน ปริมาณมากกว่า 1 ล้านตันที่ผ่านการบำบัดแล้ว ลงสู่ทะเลภายในเวลาหลายปีข้างหน้า รัฐบาลจีนจวกเป็นความไม่รับผิดชอบอย่างยิ่งเกาหลีใต้เรียกทูตญี่ปุ่นเข้าประท้วง ชุมชนประมงในพื้นที่ยิ่งไม่เห็นด้วย
ภาพของแท็งก์ขนาดยักษ์เก็บน้ำปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีและเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่ได้รับความเสียหายของโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ฟุกุชิมะไดอิจิ ถ่ายไว้เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2559 ห้าปีหลังจากโดนแผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์ถล่ม (Photo by Christopher Furlong/Getty Images)
นายกรัฐมนตรีโยชิฮิเดะ ซูกะ ของญี่ปุ่น กล่าวในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันอังคารว่า การปล่อยน้ำมากกว่า 1 ล้านตันของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะเป็นงานที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพื่อรื้อถอนโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งนี้และฟื้นฟูพื้นที่โดยรอบ ซึ่งกระบวนการนี้ต้องใช้เวลาหลายสิบปีจึงจะเสร็จสมบูรณ์ เขาย้ำด้วยว่า จะเริ่มการปล่อยน้ำจากโรงงานนี้ลงสู่ทะเลก็ต่อเมื่อมีความมั่นใจในระดับความปลอดภัยของน้ำแล้ว
ภัยพิบัติแผ่นดินไหวและสึนามิถล่มโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งนี้เมื่อปี 2554 ทำให้เกิดภาวะแกนปฏิกรณ์นิวเคลียร์หลอมละลาย ปล่อยสารกัมมันตรังสีสู่ภายนอก ถึงขณะนี้มีน้ำปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีเกือบ 1.3 ล้านตัน หรือเท่ากับความจุของสระว่ายน้ำมาตรฐานโอลิมปิกราว 500 สระ ถูกกับเก็บไว้ในแท็งก์ขนาดยักษ์ที่โรงงาน ซึ่งต้องเสียค่าใช้จ่ายปีละประมาณ 100,000 ล้านเยน หรือราว 28,854 ล้านบาท และที่เก็บใกล้จะเต็มแล้ว น้ำเหล่านี้รวมถึงน้ำที่ใช้หล่อเย็นแกนปฏิกรณ์, น้ำฝน และน้ำใต้ดินที่รั่วซึมออกมาในแต่ละวัน
คาดว่าการระบายน้ำเหล่านี้จะเริ่มต้นได้ภายในประมาณ 2 ปีข้างหน้า เพื่อให้เวลาบริษัท โตเกียวอีเล็คทริกพาวเวอร์ ผู้ดำเนินการโรงไฟฟ้าแห่งนี้เริ่มการกรองน้ำสกัดไอโซโทปที่เป็นอันตราย, สร้างโครงสร้างพื้นฐานและขอการอนุมัติ ทางการญี่ปุ่นระบุว่ากระบวนการปล่อยน้ำที่ผ่านการบำบัดแล้วนั้นเป็นกิจกรรมที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ทั่วโลกทำกันเป็นปกติ
ทว่า ประเทศเพื่อนบ้านของญี่ปุ่นแสดงปฏิกิริยาคัดค้านอย่างรุนแรง ทั้งจีนและเกาหลีใต้เรียกร้องให้ญี่ปุ่นปรึกษาหารือกับเพื่อนบ้านเกี่ยวกับแผนการนี้เพิ่มเติม
กระทรวงต่างประเทศจีนประณามการตัดสินใจของรัฐบาลญี่ปุ่นว่า ไม่นำพาต่อกาคัดค้านและข้อกังขาทั้งในประเทศและต่างประเทศ เป็นการดำเนินการที่ไร้ความผิดชอบอย่างยิ่ง และจะสร้างความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อสุขภาพและความปลอดภัยระหว่างประเทศ
ส่วนกระทรวงต่างประเทศเกาหลีใต้แถลงว่า การปล่อยน้ำจากโรงไฟฟ้าฟุกุชิมะเป็นความเสี่ยงต่อสภาพแวดล้อมทางทะเล ต่อมากระทรวงยังได้เรียกเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นเข้าพบเพื่อประท้วง
ชุมชนชาวประมงท้องถิ่นของญี่ปุ่นก็กลัวว่า ถ้ามีการปล่อยน้ำจากโรงไฟฟ้าฟุกุชิมะลงสู่ทะเล จะเป็นการทำลายความพยายามที่ทำมาแล้วหลายปีในการสร้างความเชื่อมั่นว่า อาหารทะเลที่มาจากพื้นที่นี้ไม่มีการปนเปื้อนสารกัมมันตรังสี
คันจิ ทาชิยะ หัวหน้าสหกรณ์ประมงท้องถิ่น เผยกับสถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเคหลังการประกาศนี้ของรัฐบาลว่า พวกเขาเคยบอกเราว่าจะไม่ปล่อยน้ำจากโรงไฟฟ้าฟุกุชิมะลงสู่ทะเลถ้าไม่ได้รับการเห็นชอบจากชาวประมง เราไม่สนับสนุนการทำผิดสัญญาในเรื่องนี้
อย่างไรก็ดี กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐสนับสนุนญี่ปุ่นว่า มีความโปร่งใสเกี่ยวกับการตัดสินใจ และเป็นการดำเนินการที่สอดคล้องกับมาตรฐานความปลอดภัยด้านนิวเคลียร์ที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก พร้อมกับย้ำว่าญี่ปุ่นทำงานอย่างใกล้ชิดกับทบวงพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศในการจัดการกับโรงงานแห่งนี้