เผยแพร่: ปรับปรุง:
คอลัมน์ Buzzer Beat โดย MVP
ประมาณ 2-3 วันก่อน แฟนๆ บาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA) น่าจะเห็นข่าวคราว โยอาคิม โนอาห์ อดีตเซ็นเตอร์ ชิคาโก บูลล์ส และ นิว ยอร์ก นิกส์ จูงมือ เลส ริเบโร แฟนนางแบบชาวบราซิล เข้าประตูวิวาห์ริมชายหาดแห่งหนึ่ง โดยมี เดอร์ริค โรส การ์ดจ่ายเพื่อนซี้ รับหน้าที่ตากล้องเฉพาะกิจ บันทึกภาพแห่งความสุขและความทรงจำของบ่าว-สาว ทำให้เกิดความรู้สึกอยากขุดคุ้ยเรื่องราวเก่าๆ เกี่ยวกับมิตรภาพอันแน่นแฟ้นที่เกินกว่าคำว่าบาสเกตบอลขึ้นมา
โรส เข้าสู่ระดับอาชีพช้ากว่า โนอาห์ 1 ปี ในฐานะนัมเบอร์วันดราฟต์ 2008 คว้ารางวัล รุกกี ออฟ เดอะ เยียร์ 2009 ด้วยค่าเฉลี่ย 16.8 แต้ม 6.3 แอสซิสต์ พา บูลล์ส จบฤดูกาลปกติ 2008-09 สถิติชนะ 41 แพ้ 41 เข้าเพลย์ออฟของสายตะวันออก ขณะที่ โนอาห์ ได้รับเสียงโหวตอันดับ 4 ชิงรางวัลผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) เฉลี่ย 12.6 แต้ม 11.3 รีบาวน์ด ฤดูกาล 2013-14 และรางวัลผู้เล่นป้องกันยอดเยี่ยม ปี 2014 ปัจจุบันทั้งคู่ยังสนิทสนมกันเสมือนพี่น้อง ถึงแม้ไม่ได้อยู่ทีมเดียวกัน ตั้งแต่จบฤดูกาล 2016-17
โรส กับ โนอาห์ ลงเล่นเคียงข้างกันทั้งหมด 340 เกม ตลอดอาชีพ รวม บูลล์ส กับ นิกส์ สถิติชนะ 198 แพ้ 142 ผลงานเฉลี่ยของ โรส 19.1 แต้ม 6.1 แอสซิสต์ และ โนอาห์ เฉลี่ย 8.3 แต้ม 9.5 รีบาวน์ด ถึงแม้ไม่สามารถฉลองแชมป์ NBA แต่ก็เคยผ่านช่วงเวลาที่ดีสุดของอาชีพมาด้วยกัน เริ่มจากฤดูกาล 2010-11 ทั้งคู่เป็นแกนหลักของ ชิคาโก ที่ทำสถิติดีสุดของ NBA และทะลุถึงรอบชิงชนะเลิศ สายตะวันออก ก่อนแพ้ ไมอามี ฮีต ยุค เลอบรอน เจมส์, ดีเวย์น เหว็ด และ คริส บอช 3 ซูเปอร์สตาร์ 1-4 เกม
ต่อมาฤดูกาล 2011-12 ชิคาโก เป็นทีมสถิติดีสุดของ NBA และมีโอกาสลุ้นแชมป์แรก นับตั้งแต่สิ้นยุค ไมเคิล จอร์แดน การ์ดชุดแชมป์ 6 สมัย แต่เคราะห์ร้าย โรส ได้รับบาดเจ็บเอ็นไขว้เข่า (ACL) ในเพลย์ออฟ รอบแรก เกม 1 พบ ฟิลาเดลเฟีย เซเวนตีซิกเซอร์ส เป็นเหตุให้พ่ายไป 2-4 เกม
ขณะ โรส พักยาวทั้งฤดูกาล 2012-13 กลายเป็น โนอาห์ ที่ขึ้นมาเป็นความหวังของแฟรนไชส์ ซัดเฉลี่ย 11.9 แต้ม 11.1 รีบาวน์ด กระทั่งติด ออล-สตาร์ ครั้งแรกของอาชีพ และจุดที่น่าประทับใจยิ่งกว่านั้น คือ บูลล์ส ชนะ 45 จาก 82 เกม ช่วงฤดูกาลปกติ เข้าถึงรอบ 2 เพลย์ออฟ 2013 แพ้ ไมอามี 1-4 เกม จากนั้น โรส คืนสนามได้เพียง 10 เกม ก็มาบาดเจ็บเข่าอีกครั้ง ปิดเทอมฤดูกาล 2013-14 ทำให้ บิ๊กแมนชาวฝรั่งเศส ต้องแบกทีม 12.6 แต้ม 11.3 รีบาวน์ด 5.4 แอสซิสต์
โรส กลับมาอาละวาด 51 เกม ฤดูกาล 2014-15 พา บูลล์ส ชนะ 50 เกม เข้าถึงเพลย์ออฟรอบ 2 แพ้ คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส นำโดย “คิงเจมส์” และร่วมงานกับ โนอาห์ ครั้งสุดท้าย ที่ชิคาโก ฤดูกาล 2015-16 เริ่มจาก โรส ถูกเทรดไป นิกส์ และไม่กี่วันต่อมา โนอาห์ ย้ายมาสมทบ ที่เมดิสัน สแควร์ การ์เดน แบบฟรีเอเจนต์ ช่วงฤดูร้อนปี 2016 แล้วกลายเป็นช่วงตกต่ำของทั้งคู่
ขอหยิบบทสัมภาษณ์ของ ผลผลิตจากมหาวิทยาลัย เมมฟิส กับ เอ็นบีซี สปอร์ตส ชิคาโก ถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับ โนอาห์ ปัจจุบันอายุ 37 ปี มีสาเหตุหลักมาจากครอบครัว “มันลึกซึ้งกว่าคำว่า บาสเกตบอล ครอบครัวของเราค่อนข้างสนิทกัน ทั้งแม่ของผมกับแม่ของเขา แม้ว่าจะย้ายมา นิว ยอร์ก ทุกสิ่งที่ผมทำมีเพื่อนๆ และครอบครัวของเขาคอยช่วยเหลือ แม็ตต์ (โรเซนเบิร์ก) เพื่อนสนิทของเขาคอยอยู่เคียงข้างเสมอ ลูกสาวของผมกับลูกสาวของเขาก็เป็นเพื่อนสนิทกัน ดังนั้นมันเป็นความสัมพันธ์ที่ครบวงจร มันเหลือเชื่อจริงๆ ที่ตอนนี้ผมอยู่ นิว ยอร์ก ซึ่งเป็นเมืองที่เขาเติบโต”
สุดท้ายนี้สิ่งที่ผมอยากรำลึก ในฐานะแฟน “กระทิงเปลี่ยว” คนหนึ่ง ช่วงพีกของทั้งคู่เป็นเวลาที่ผมรู้สึกมีความหวังมากสุด สำหรับการลุ้นแชมป์ NBA หลังจากเราเคยฟินกับยุค “เอ็มเจ” ปลายๆ ยุค 90 เกมรับอันเหนียวแน่นตามสไตล์ของ ทอม ธิโบดัว เปรียบเสมือนเครื่องหมายการค้า แต่สำหรับเกมบุก ดูจะพึ่งพา “ดี-โรส” มากเกินไป ตอน โรส บาดเจ็บเข่า 2 ครั้ง ผมยังหวังเสมอว่า จะกลับมาเก่งเหมือนเดิม กระทั่งถูกเทรดออกจากทีม
ถึงตอนนี้ โรส วัย 33 ปี อาจจะไม่เก่งกาจเหมือนตอนคว้า MVP อายุน้อยสุดในประวัติศาสตร์ของลีก เนื่องจากเขาเป็นผู้เล่นที่มีจุดเด่นด้านการ ครอสส์-โอเวอร์ (โยกหลบ) บุกตะลุยเข้าหาห่วงมากกว่าเป็นสไตล์ส่องระยะกลางเหมือน คริส พอล และการบาดเจ็บมันส่งผลต่อความเร็วและคล่องตัว สำหรับ โนอาห์ ผมไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ เพราะความอารมณ์ร้อน, ยิงโทษไม่ค่อยแม่น และไม่ได้เก่งกาจด้านเกมบุกเหมือนเซ็นเตอร์ยุคปัจจุบัน