เผยแพร่: ปรับปรุง:
คอลัมน์ Buzzer Beat โดย MVP
เหลือเวลาประมาณ 1 สัปดาห์ ศึกบาสเกตบอลเอ็นบีเอ (NBA) กำลังจะเริ่มฤดูกาล 2022-23 นอกเหนือจากดราม่าของ บรูกลิน เน็ตส์ เกี่ยวกับการบริหารจัดการซูเปอร์สตาร์ เควิน ดูแรนท์ กับ คายรี เออร์วิง ยังมีประเด็น โกลเดน สเตท วอร์ริเออร์ส แชมป์เก่า หลัง เดรย์มอนด์ กรีน กับ จอร์แดน พูล 2 ผู้เล่นตัวสำคัญ ก่อเหตุทะเลาะวิวาทระหว่างการฝึกซ้อม และถูก “ทีเอ็มซี สปอร์ตส (TMZ Sports)” นำคลิปออกมาเผยแพร่
บทสรุปปรากฏว่า กรีน กล่าวขอโทษต่อสาธารณชน, พูล และครอบครัวของคู่กรณี โดยไม่ต้องการเรียกร้องความเห็นใจด้วยการเล่าชนวนเกิดเหตุ ซึ่งอาจชี้นำความคิดของบุคคลภายนอก และปฏิเสธปมขัดแย้งเกี่ยวกับการเจรจาสัญญาใหม่ แล้วปลีกวิเวกแบบไม่มีกำหนด เพื่อไม่ให้เสียบรรยากาศการเตรียมทีม ขณะที่หลายๆ คนอาจมองว่า เขาอาจถึงจุดจบกับ วอร์ริเออร์ส แบบไม่สวยอย่างที่ควรจะเป็น
สิ้นสุดฤดูกาล 2022-23 กรีน จะเหลือ เพลเยอร์ อ็อปชัน อีก 1 ซีซัน มูลค่า 27.5 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยเขาเชื่อว่าการเจรจาสัญญาฉบับใหม่กับ โกลเดน สเตท ไม่น่าจะบรรลุข้อตกลงกันภายในปี 2022 บวกกับอายุอานามกำลังจะครบ 33 ปี เดือนมีนาคม 2023, เหตุการณ์วุ่นวายภายใน และผู้เล่นวัยหนุ่มที่กำลังจะก้าวมาทดแทนอย่าง โจนาธาน คูมิงกา ฟอร์เวิร์ดชาวคองโก ซึ่งถูกดราฟต์อันดับ 7 เมื่อปี 2021 จึงมีสิทธิ์ที่เขาจะถูกปล่อยตัว
อิทธิพลของ กรีน ต่อทีม เรามิอาจมองเห็นด้วยการดูค่าเฉลี่ย 7.5 แต้ม 7.3 รีบาวน์ด 7.0 แอสซิสต์ เฉพาะฤดูกาลปกติ 2021-22 หรือ 8.0 แต้ม 7.2 รีบาวน์ด 6.3 แอสซิสต์ เฉพาะเพลย์ออฟ ปี 2022 ถ้าคุณเป็นแฟน วอร์ริเออร์ส แล้วพิจารณาวิธีการเล่น คุณจะเห็นว่าเขาคือเบื้องหลังของความสำเร็จอย่างแท้จริง การป้องกันอยู่ในขั้นผู้ท้าชิงรางวัลผู้เล่นเกมรับยอดเยี่ยม (DPOY) และเป็นผู้เล่นตัวใหญ่ที่ขับเคลื่อนเกมบุกดีสุดคนหนึ่งของลีก ตลอดจนบทบาทผู้นำทีม ซึ่งเป็นคาแร็กเตอร์ที่เราไม่เห็นจาก สตีเฟน เคอร์รี กับ เคลย์ ธอมป์สัน 2 ซูเปอร์สตารแฟรนไชส์
ขอหยิบความเห็นของ เฟสตุส เอเซลี อดีตเซ็นเตอร์ วอร์ริเออร์ส (เพราะเขาน่าเชื่อถือกว่าผมเยอะ) คอมเมนต์ถึงบทบาทของ กรีน เมื่อเดือนมีนาคม 2022 ทางเว็บไซต์ fadeawayworld.net หลัง วอร์ริเออร์ส มีปัญหาเนื่องจากขาด กรีน สถิติ ชนะ 4 แพ้ 6 จาก 10 เกม และ ชนะ 14 แพ้ 11 จาก 25 เกม “เดรย์มอนด์ เป็นผู้เล่นสำคัญต่อทีมๆ นี้ ทำไมน่ะหรือ เพราะพวกเขาใช้ กรีน เป็นศูนย์กลาง พวกเขาสร้างระบบโดยยึด 3 คนเป็นแกนหลัก คือ เดรย์มอนด์, สเตฟ (เคอร์รี) และ เคลย์ เขาอาจไม่ใช่ผู้เล่นที่เก่งสุด แต่เขาคือคนที่ขาดไม่ได้”
“ปีนี้พวกเขาตัดสินใจเล่นด้วยระบบ สมอลล์-บอลล์ (ผู้เล่น 5 ตัวจริงรูปร่างเล็ก) การทำให้วิธีนี้มีประสิทธิภาพ เราต้องการผู้เล่นป้องกันยอดเยี่ยมของเรามาเป็นศูนย์กลาง นั่นคือสาเหตุที่พวกเขาทิ้งห่างคู่แข่งไปไกล พวกเขายังเป็นอันดับ 2 ของ NBA ถึงแม้สถิติ ชนะ 14 แพ้ 11 ตลอด 25 เกมล่าสุด เมื่อคุณขาดผู้เล่นแบบ เดรย์มอนด์ ซึ่งมีความสารพัดประโยชน์ คอยยืนเซ็ตสกรีนให้ สเตฟ และ เคลย์ อยู่ในตำแหน่งที่ว่าง คนที่เป็นผู้นำและหัวใจสำคัญของทีม แน่นอน คุณต้องนึกถึงเขา”
ตามความเห็นของ เอเซลี ขุนพลชุดแชมป์ ปี 2015 คลายข้อสงสัยอย่างหมดจดว่า กรีน เป็นผู้เล่นคนสำคัญคนหนึ่ง ซึ่งทำให้ วอร์ริเออร์ส เล่นตามสไตล์ถนัด การจ่ายบอลของเขาช่วยให้มือปืนหลุดจากการประกบ และทีมจะตกที่นั่งลำบากเวลาตั้งรับเมื่อปราศจากเขา และยังเป็นตัวแปรหนึ่งที่สามารถปล่อยทีเด็ดเมื่อถึงเกมสำคัญๆ ดังนั้น โกลเดน สเตท จึงต้องการเขา หากหวังป้องกันแชมป์
กลับมาที่ลิเวอร์พูล ซึ่งเหล่าสาวก “เดอะ ค็อป” โอดครวญลั่นโลกโซเชียลเกี่ยวกับผลงานตามกระแสการจำหน่ายสินค้าออนไลน์ 10-10 (อันดับ 10 มี 10 แต้ม) พอจะสรุปได้สั้นๆ ว่า พวกเขาเล่นเหมือนเดิม แต่ประสิทธิภาพไม่เหมือนเดิม ความแตกต่างนั้นเกิดจากการเสีย จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม กับ ซาดิโอ มาเน 2 ขุนพลในยุครุ่งโรจน์ของปรัชญา “เอฟวี เมทัล ฟุตบอล”
สิ่งที่เราเห็นมาตั้งแต่เปิดซีซัน เท่าที่สัมผัสได้ คือ เกมเพรสซิง (บีบพื้นที่กดดันคู่ต่อสู้) ไม่ดุดัน และแย่งบอลไม่เก่งเหมือนเดิม ไวจ์นัลดุม เป็นผู้เล่นที่มีส่วนร่วมทั้งรุกและรับ ตัดบอล, พาบอลขึ้นแดนหน้า ตลอดจนสอดเข้าไปในพื้นที่อันตรายเพื่อยิงประตู ขณะที่ มาเน เป็นนักเตะสไตล์แข็งแรง สามารถเพรสซิงแดนบน หรือขยับเข้ามาวงใน ดึงตัวประกบ แล้วทำชิ่งกับเพื่อน ผลักดันให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ คู่หูแนวรุก โดดเด่นอย่างเห็นได้ชัด
ดังนั้นความสำคัญของ ไวจ์นัลดุม กับ มาเน พอไม่มีผู้เล่นสเปคเดียวกันหรือดีกว่ามาทดแทน จึงเริ่มแสดงผลให้เห็นแล้วในซีซันนี้ กระทั่ง เจอร์เกน คล็อปป์ กุนซือชาวเยอรมัน ยอมรับว่าเขาผิดเอง และความเห็นของผู้สื่อข่าวถูกต้องเกี่ยวกับประเด็นถึงเวลาที่ “หงส์แดง” ต้องหาผู้เล่นเสริมแดนกลาง เนื่องจาก จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กับ เจมส์ มิลเนอร์ โรยราตามสังขาร จึงเปรียบได้กับกรณี วอร์ริเออร์ส ยามปราศจาก กรีน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อทีม แต่จะมากหรือน้อย ต้องรอดูวันเปิดซีซัน พบ แอลเอ เลเกอร์ส เช้าวันพุธที่ 19 ตุลาคม ตามเวลาไทย