หลัง “เทพบิว” ภูริพล บุญสอน ลมกรดดาวรุ่งอนาคตไกล วัย 16 ปี และ จอชชัว โรเบิร์ต แอทคินสัน หนุ่มลูกครึ่งไทย-ออสเตรเลีย วัย 19 ปี แจ้งเกิด นัดกันโชว์ฟอร์มฮอตกันแบบสุดๆ
ไล่ตั้งแต่ก่อนหน้านี้ ในมหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 เดือนพฤษภาคม 2565 ที่ประเทศเวียดนาม ภูริพลประเดิมรายการนานาชาติครั้งแรกเหมาไป 3 เหรียญทอง ขณะที่จอชชัวกวาดไปคนเดียว 4 แชมป์
ต่อมาเข้าสู่รายการเยาวชนชิงแชมป์โลก 2022 ที่ประเทศโคลอมเบีย ที่เพิ่งผ่านพ้นไป “เทพบิว” จบอันดับ 4 วิ่ง 100 เมตร เวลา 10.12 วินาที แบบแพ้อันดับ 3 เบนจามิน ริชาร์ดสัน จากแอฟริกาใต้ เพียงเสี้ยววินาที จากการตัดสินด้วยภาพถ่าย
ส่วนอันดับ 1 เป็นของเลตไซล์ เตโบโก จาก บอตสวานา ทำลายสถิติโลก อายุไม่เกิน 20 ปี ด้วยเวลา 9.91 วินาที อันดับ 2 โบวาห์จกี ครูมี จากจาเมกา 10.02 วินาที
ขณะที่จอชชัว นักวิ่งลูกครึ่งไทย-ออสซี ได้อันดับ 5 วิ่ง 400 เมตรชาย ด้วยเวลา 46.31 วินาที
โดยอันดับ 1 เป็นของไลต์ พิลเลย์ จากแอฟริกาใต้ เวลา 45.28 วินาที, อันดับ 2 สตีเวน แม็คเอลรอย จากสหรัฐอเมริกา เวลา 45.65 วินาที และอันดับ 3 ยูซูฟ อาลี อับบาส จากบาห์เรน เวลา 45.80 วินาที
สำหรับ “เทพบิว” ภูริพลนั้น ถือว่าถูกจับตามองเป็นพิเศษ เมื่อสหพันธ์สมาคมกรีฑานานาชาติ World Athletics หรือ International Association of Athletics Federations (IAAF) ได้ประกาศรับรองสถิติเป็นนักกรีฑาที่เร็วที่สุดในโลก รุ่นอายุต่ำกว่า 18 ปี ไปเป็นที่เรียบร้อย
โดยสถิติดังกล่าว เกิดขึ้นในการวิ่ง 100 เมตรชาย รอบรองชนะเลิศ เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2565 ซึ่งลมกรดหนุ่มจากสมุทรปราการ ทำเวลาไว้ 10.09 วินาที ส่งผลให้เป็นสถิติโลกใหม่ กับการเป็นนักวิ่งเร็วที่สุด อายุต่ำกว่า 18 ปี ด้วยวัยเพียง 16 ปี 210 วัน
แซงหน้า แอนโธนีย์ ชวาร์ซ นักวิ่งสหรัฐอเมริกา เจ้าของสถิติเดิม ที่ทำเอาไว้ที่เกเนสวิลล์ ฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2560 ด้วยเวลา 10.15 วินาที
และนี่ทำให้กรีฑาโลกสั่งจับตามองหนุ่มไทย ชนิดห้ามคลาดสายตากันเลยทีเดียว
ทั้งนี้ “เทพบิว” ภูริพล ถือเป็นปรากฏการณ์สำคัญของวงการกรีฑาไทยอย่างแท้จริง เพราะหากย้อนกลับไปในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ถือว่าเป็นช่วงเวลาทองของเจ้าตัวเลยก็ว่าได้
จากที่ไม่มีใครรู้จักมากนัก เพียงแค่ลงแข่งขันในมหกรรมกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 47 “ศรีสะเกษเกมส์” ที่จังหวัดศรีสะเกษ
เมื่อเดือนมีนาคม 2565 ภูริพลก็สร้างชื่อทันที ด้วยการคว้าเหรียญทองวิ่ง 100 เมตร ด้วยเวลา 10.19 วินาที ทำลายสถิติกีฬาแห่งชาติ
และยังคว้าเหรียญทองวิ่ง 200 เมตร ด้วยเวลา 20.58 วินาที ทำลายสถิติประเทศไทยได้อีกต่างหาก
จากนั้นดือนพฤษภาคม อย่างที่บอกไว้ตอนต้น กับมหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่ประเทศเวียดนาม กระชากมา 3 เหรียญทอง จากวิ่ง 200 เมตร ด้วยเวลา 20.37 วินาที ทำลายสถิติซีเกมส์ เข้าให้อีก
ไม่แค่นั้น ยังได้เหรียญทองวิ่งผลัด 4 คูณ 100 เมตร ด้วยเวลา 38.58 วินาที ทำลายสถิติซีเกมส์ ก่อนปิดท้าย เหรียญทองวิ่ง 100 เมตร ด้วยเวลา 10.44 วินาที ทุบสถิติซีเกมส์อีกครั้ง
จนล่าสุดมาผงาดในศึกกรีฑาเยาวชนชิงแชมป์โลก 2022 ที่ประเทศโคลอมเบีย ซึ่งเวลาวิ่ง 100 เมตร ในรอบรองฯ 10.09 วินาที ยังเป็นการทำลายสถิติประเทศไทยได้อีกด้วย เรียกว่าไม่ธรรมดาจริงๆ
อย่างไรก็ตาม ในรายการกรีฑาเยาวชนชิงแชมป์โลกดังกล่าว ก็มีข้อเตือนใจให้กับทุกฝ่ายได้ขบคิดกันหนักๆ เมื่อ “เทพบิว” ได้รับบาดเจ็บ ระหว่างการวิ่งผลัด 4 คูณ 100 เมตร รอบคัดเลือก
แม้ทาง “แฝดเล็ก” พล.ต.ต.ศุภวณัฏฐ์ อาริยะมงคล หัวหน้าผู้ฝึกสอนกรีฑาทีมชาติไทย จะยืนยันว่าไม่ได้เจ็บหนักอะไร
สะโพกมีอาการตึงเท่านั้น แต่ก็สะท้อนได้เป็นอย่างดีว่า หนุ่มนักวิ่งอนาคตไกล ก็มีข้อจำกัดอยู่พอสมควร ยังไม่สามารถลุยกันได้แบบจัดเต็ม
โดยสมาคมกีฬากรีฑาฯ ได้สั่งให้ภูริพลงดซ้อม 3 สัปดาห์ไปแล้ว โดยจัดนักกายภาพบำบัด จัดโปรแกรมเวตเทรนนิง เพื่อรักษาสภาพกล้ามเนื้อของเจ้าตัวให้กลับมาแข็งแรงตามสภาพเดิม
ในเรื่องนี้เชื่อว่า สมาคมกีฬากรีฑาฯทราบเป็นอย่างดี เพราะประคบประหงม “เทพบิว” มาอย่างเหมาะสม ค่อยๆเป็นค่อยๆไป ตัดสินใจถูกตั้งแต่เลือกที่จะส่งไปแข่งขันรายการเยาวชนชิงแชมป์โลก แม้หนุ่มไทยรายนี้จะได้สิทธิ์ไปวิ่งศึกชิงแชมป์โลกที่ใหญ่กว่าก็ตาม
รวมทั้งการไม่เร่งส่งแข่งขันมากเกินไปและการมองหาแหล่งบ่มเพาะวิชาระดับโลกให้กับเจ้าตัวเพิ่มเติม ซึ่งอย่างที่ทราบศูนย์ฝึกกรีฑาจากทั่วโลกหลายแห่ง ยื่นความประสงค์เข้ามาต่อเนื่อง แต่สมาคม ขอดูและพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจอีกครั้ง
การดำเนินการอย่างถี่ถ้วนเช่นนี้ ไม่บ้าจี้ไปตามกระแสในโลกโซเชียลที่เอามัน เอาสนุกเข้าว่า จะส่งผลดีต่อ “เทพบิว” ภูริพล อย่างไม่ต้องสงสัย
กับวัยเพียง 16 ปี อนาคตยังอีกไกล ต้องไม่มากไป ไม่น้อยเกินไป ต้องก้าวย่างอย่างระมัดระวัง
ถ้าได้รับการดูแลอย่างถูกทาง ถูกวิธี “บิว” โชว์ฟอร์มเทพสนั่นโลกได้อย่างต่อเนื่องแน่นอน…
กัญจน์ ศิริวุฒิ เรื่อง